ยุงค์ไฮน์ริช ผู้นำด้านอินทราโลจิสติกส์โซลูชัน
โซลูชั่นที่คุณได้รับ
โซลูชั่นที่คุณได้รับ
โซลูชั่นที่คุณได้รับ
โซลูชั่นที่คุณได้รับ
โซลูชั่นที่คุณได้รับ
ยุงค์ไฮน์ริช ผู้นำด้านอินทราโลจิสติกส์โซลูชัน
ยุงค์ไฮน์ริช ผู้นำด้านอินทราโลจิสติกส์โซลูชัน
บริการของเรา
บริการของเรา
บริการของเรา
ยุงค์ไฮน์ริช ผู้นำด้านอินทราโลจิสติกส์โซลูชัน
เกี่ยวกับเรา
เกี่ยวกับเรา
ยุงค์ไฮน์ริช ผู้นำด้านอินทราโลจิสติกส์โซลูชัน
ร้านค้า
ร้านค้า
ร้านค้า
ร้านค้า
ร้านค้า
บริษัท ยุงค์ไฮน์ริช ลิฟท์ ทรัค จำกัด ตระหนัก และให้ความสำคัญด้านการจัดเก็บและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างดี รวมถึงการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ยุงค์ไฮน์ริชรับรองว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งหมด
บริษัท ยุงค์ไฮน์ริช ลิฟท์ ทรัค จำกัด ("ยุงค์ไฮน์ริช" หรือ "บริษัทฯ" หรือ "เรา") ในฐานะผู้เผยแพร่เว็บไซต์ เราตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ยุงค์ไฮน์ริชขอรับรองเราว่าจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดไว้เป็นความลับ และจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูล โดย ยุงค์ไฮน์ริช จะขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะ ขอบเขต และวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายในระบบออนไลน์ และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องให้รายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถป้องกันการติดตาม และข้อมูลทางการตลาด รวมถึงคุกกี้และเว็บบีคอนได้ โดยเลือกอนุญาตเฉพาะคุกกี้ในหมวดหมู่ "จำเป็น" สามารถเข้าดูข้อมูลเกี่ยวกับคุกกี้ของเรา โปรดดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์นี้ Cookies .
เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ของยุงค์ไฮน์ริช ข้อมูลจะถูกแลกเปลี่ยนกันระหว่างอุปกรณ์เชื่อมต่อปลายทางของผู้เข้าชมเว็บไซต์ และเซิร์ฟเวอร์ของยุงค์ไฮน์ริช ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการประมวลข้อมูลส่วนบุคคลสามารถดูได้จากข้อมูลที่จะชี้แจงต่อไปนี้
ตามข้อกำหนดทางกฎหมายแห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ผู้เข้าชมเว็บไซต์มีสิทธิที่จะสามารถอ้างสิทธิส่วนบุคคลกับยุงค์ไฮน์ริชได้ รวมถึงสิทธิในการยื่นคัดค้านการประมวลผลข้อมูลบางประเภท โดยเฉพาะการประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณา ส่วนเนื้อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนี้อยู่ในส่วน 'สิทธิของคุณ'
หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมด้านนโยบายความเป็นส่วนตัว สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลองค์กรยุงค์ไฮน์ริช ได้ตลอดเวลา โดยข้อมูลการติดต่อที่เกี่ยวข้องได้ระบุไว้ในตอนท้ายของประกาศนี้
ข้อมูลทั่วไป
ยุงค์ไฮน์ริช จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์จะได้รับการประมวลผลก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตตามกฎหมายแล้วเท่านั้น เช่น ในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนดไว้จะต้องเป็นข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้เข้าชมเว็บไซต์ก่อนหรือการประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของยุงค์ไฮน์ริชตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
ข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ชื่อ รหัสไปรษณีย์ เบอร์โทรศัพท์ หรือ อีเมล จะไม่ถูกบันทึกข้อมูลเว้นแต่ว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์จะยินดีให้ข้อมูลในส่วนนั้นเองด้วยความสมัครใจ เช่น การสมัครรับจดหมายข่าว การยื่นเรื่อง หรือ การสอบถามข้อมูล
ยุงค์ไฮน์ริชจะใช้ข้อมูลส่วนนี้เพื่อกิจกรรมทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ต่อเมื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้ความยินยอมก่อนแล้วเท่านั้น หรือ ตามเงื่อนไขที่กฎหมายได้มีการกำหนดไว้
ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ยุงค์ไฮน์ริชได้ทาง Junheinrich Shop โดยการประมวลผลข้อมูลในส่วนนี้จะมีอธิบายไว้ในประกาศความเป็นเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ https://shop.jungheinrich.co.th/th/c/Data-privacy
การเข้าถึงเว็บไซต์
ทุกการเข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์จะถูกส่งมาจากเบราว์เซอร์ที่ใช้บนอุปกรณ์เชื่อมต่อปลายทางมาที่เซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของยุงค์ไฮน์ริชโดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บไว้ในระบบสารสนเทศชั่วคราว (Log files)
ข้อมูลต่อไปนี้จะถูกรวบรวม และจัดเก็บไว้จนกระทั่งจะถูกลบออกจากระบบโดยอัตโนมัติ:
โดยฐานทางกฎหมายของการประมวลผลข้อมูล IP Adrees นั้นเนื่องด้วยเป็นผลประโยชน์โดยชอบธรรมอันชอบธรรมของยุงค์ไฮน์ริชในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้ชี้แจ้งด้านล่างเท่านั้น โปรดทราบว่าข้อมูลที่ยุงค์ไฮน์ริชรวบรวมไว้นี้ไม่ได้บ่งชี้ใดๆ ที่เกี่ยวกับตัวตนของผู้เข้าชมเว็บไซต์และยุงค์ไฮน์ริชไม่ได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อระบุตัวตนเกี่ยวกับตัวตนของผู้เข้าชมเว็บไซต์แต่อย่างไร
โดย IP Address ของอุปกรณ์เชื่อมต่อของผู้เข้าชมเว็บไซต์ และรายการข้อมูลข้างต้นจะถูกนำไปใช้สำหรับ:
ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ของเซิร์ฟเวอร์
การเข้าถึงเว็บไซต์หรือเอกสารบันทึกของเราเกี่ยวข้องกับการใช้เครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา (CDN) Amazon CloudFront ผู้ให้บริการคือ Amazon Web Services EMEA SARL, 38 Avenue John F. Kennedy, L-1855 Luxembourg ตามกฎหมาย ในกรณีนี้ ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเราอยู่ในการดำเนินการที่ปลอดภัย เสถียร และมีประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของเราผ่าน CDN รวมถึงการส่งข้อมูลที่จำเป็นอย่างรวดเร็วไปยังผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราด้วยเวลาแฝงต่ำและอัตราการถ่ายโอนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวอักษร รูปภาพ ไฟล์ CSS และ JavaScript รวมถึงเอกสาร PDF ถูกส่งผ่าน Cloud architecture พร้อมโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
แหล่งข้อมูลสืบค้นอื่นๆ
ข้อมูลติดต่อ
หากเราได้รับการติดต่อจากผู้เข้าใช้งาน (ผ่านช่องทางการติดต่อโดยกรอกแบบฟอร์มหรืออีเมล) ข้อมูลที่ผู้ใช้งานมอบให้จะถูกประมวลผลเพื่อการจัดการคำขอที่ส่งเข้ามาและจะถูกประมวลผลภายใต้พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ข้อมูลของผู้เข้าใช้งานอาจะจะถูกบันทึกในระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หรือโดยวิธีการบริหารจัดการการสอบถามข้อมูลที่มีลักษณะเดียวกัน
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับคุกกี้
บนเว็บไซต์ของเรา เราใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ (ที่จัดเก็บในตัวเครื่อง พื้นที่จัดเก็บเซสชัน) ของเบราว์เซอร์ของคุณ หากคุณยินยอม หากมีส่วนได้เสียโดยชอบด้วยกฎหมายในส่วนของเรา หรือหากจำเป็นในทางเทคนิค ความสนใจของเราในการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของเรานั้นถือว่าถูกต้องตามความหมายของกฎระเบียบดังกล่าว คุกกี้คือไฟล์ขนาดเล็กที่เบราว์เซอร์ของคุณสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติและจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ปลายทางของคุณ (แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ฯลฯ) เมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา คุกกี้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ของคุณ และไม่มีไวรัส ม้าโทรจัน หรือมัลแวร์อื่นๆ ข้อมูลที่เก็บไว้ในคุกกี้ถูกสร้างขึ้นโดยเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ปลายทางเฉพาะที่ใช้ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถรับความรู้เกี่ยวกับตัวตนของคุณจากข้อมูลนี้โดยตรง ในแง่หนึ่ง การใช้คุกกี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การใช้งานเว็บไซต์ของเราเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้นสำหรับคุณ ตัวอย่างเช่น เราใช้คุกกี้เซสชันเพื่อพิจารณาว่าคุณเคยเข้าชมเฉพาะหน้าของเว็บไซต์ของเราก่อนหน้านี้ สิ่งเหล่านี้จะถูกลบออกโดยอัตโนมัติเมื่อคุณออกจากเว็บไซต์ของเรา นอกจากนี้ เราใช้คุกกี้ชั่วคราวเพื่อทำให้เว็บไซต์ของเราใช้งานง่ายขึ้น คุกกี้ชั่วคราวเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ปลายทางของคุณตามระยะเวลาที่กำหนด หากคุณเยี่ยมชม เว็บไซต์ของเราอีกครั้งเพื่อใช้ประโยชน์จากบริการของเรา คุกกี้จะรับรู้โดยอัตโนมัติว่าคุณเคยเยี่ยมชมไซต์ก่อนหน้านี้ และจดจำรายการและการตั้งค่าที่คุณทำไว้ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกรอกรายละเอียดเหล่านี้อีกครั้ง
ในทางกลับกัน เราใช้คุกกี้เพื่อบันทึกสถิติเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ของเรา เพื่อประเมินสถิติเหล่านี้ และเพื่อปรับเว็บไซต์ของเราให้เหมาะสมสำหรับคุณ เช่นเดียวกับการแสดงข้อมูลส่วนบุคคล หากคุณกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกครั้ง คุกกี้เหล่านี้จะรับรู้โดยอัตโนมัติว่าคุณเคยเข้าใช้เว็บไซต์ก่อนหน้านี้ คุกกี้เหล่านี้จะถูกลบออกโดยอัตโนมัติหลังจากเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ยอมรับคุกกี้โดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถกำหนดค่าเบราว์เซอร์ของคุณเพื่อไม่ให้มีการจัดเก็บคุกกี้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ หรือเพื่อให้ข้อความปรากฏขึ้นก่อนที่จะสร้างคุกกี้ใหม่ทุกครั้ง โปรดทราบว่าคุณอาจใช้งานทั้งหมดของเว็บไซต์ของเราไม่ได้หากคุณปิดใช้งานการสร้างคุกกี้โดยสมบูรณ์ ระยะเวลาการจัดเก็บคุกกี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลและไม่เหมือนกันในทุกกรณี สามารถดูระยะเวลาการจัดเก็บคุกกี้แต่ละรายการได้ Cookies.
คุกกี้ "jh_medium" สำหรับการติดตามช่องทางการรับส่งข้อมูล
เกี่ยวเนื่องกับกฎหมายพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) (ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการวิเคราะห์ความสำเร็จของกิจกรรมออนไลน์ของเรา) เราใช้คุกกี้ "jh_medium" เพื่อจัดเก็บ "ช่องทางการให้ข้อมูลทั่วไป" เกี่ยวกับการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา เพื่อจุดประสงค์นี้ เราใช้สคริปต์ที่เราพัฒนาขึ้นเองภายในบันทึกแหล่งที่มาของการเข้าชมของคุณ เพื่อให้เราสามารถประเมินความสำเร็จของช่องทางเหล่านี้ได้ (ค่าตัวอย่าง: "SEO") ปัจจุบันคุกกี้มีอายุสูงสุด 6 เดือน เวลานี้อาจแตกต่างกันไปตามเบราว์เซอร์ของคุณและอาจจะสั้นลง ไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บไว้ในคุกกี้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีการจัดเก็บที่อยู่ IP หรือ ID ผู้ใช้ และจะไม่มีการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ใดๆ
Google Analytics
หากคุณให้ความยินยอมในหมวดหมู่ "สถิติ" ผ่านแบนเนอร์คุกกี้หรือเครื่องมือยินยอมคุกกี้ของเรา (ความยินยอมตามกฎหมาย) เราจะใช้ Google Analytics บนเว็บไซต์ของเรา นี่คือบริการวิเคราะห์เว็บที่ให้บริการโดย Google LLC (เดิมคือ Google Inc.), 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA 94043, USA ผู้ให้บริการที่รับผิดชอบสำหรับสหภาพยุโรปคือ Google Ireland Limited, Gordon House, Barrow Street, Dublin 4, Ireland ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "Google"
เราใช้ Google Analytics เป็นหลักเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในการวิเคราะห์ทางสถิติของเว็บไซต์และกิจกรรมออนไลน์ของเรา ตลอดจนเพื่อสนับสนุนการออกแบบตามความต้องการและการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องของการแสดงตนของเว็บของเรา ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้สรุปข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมอบหมายกับ Google ซึ่งรับประกันการปกป้องข้อมูลอย่างครอบคลุมโดยใช้ข้อสัญญามาตรฐาน
ในบริบทนี้ มีการใช้คุกกี้ สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้นามแฝง และรวบรวมข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่รวบรวมจะมีดังต่อไปนี้:
ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของคุณจะถูกรวมเข้ากับ ID นามแฝง (clientID) และโอนไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google ผ่านการเชื่อมต่อที่เข้ารหัส (SSL, HTTPS) และจัดเก็บในภายหลัง
เราใช้ Google Analytics กับการลบข้อมูลที่ระบุ IP ที่ใช้งานอยู่เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าที่อยู่ IP ของผู้ใช้ถูกตัดทอนโดย Google ภายในรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรปหรือในประเทศอื่นๆ ที่เป็นภาคีของข้อตกลงเขตเศรษฐกิจยุโรป เฉพาะในกรณีพิเศษเท่านั้นที่อยู่ IP แบบเต็มจะถูกโอนไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google ในสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะถูกตัดทอน นอกเหนือจาก Google LLC ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ข้อมูลที่ส่งและจัดเก็บอาจเข้าถึงได้โดยหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาในแต่ละกรณีและภายใต้เงื่อนไขทางกฎหมายที่เฉพาะเจาะจง
Google ใช้ข้อมูลนี้ในนามของเราเพื่อวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ของเราโดยผู้เข้าชม เพื่อวัดความสำเร็จของแคมเปญ (เช่น ผ่านแพลตฟอร์มโฆษณา Google Ads) เพื่อรวบรวมรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมบนเว็บไซต์ของเราและเพื่อให้บริการเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง ต่อการใช้งานเว็บไซต์นี้และการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป ในระหว่างกระบวนการนี้ โปรไฟล์ผู้ใช้นามแฝงสามารถสร้างขึ้นได้จากข้อมูลที่ประมวลผล
เราได้กำหนดค่า Google Analytics เพื่อให้ข้อมูลที่ส่งออกเชื่อมโยงกับคุกกี้หรือรหัสลูกค้า ซึ่งจะถูกลบโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 14 เดือน ซึ่งจะเหลือเพียงข้อมูลที่รวบรวมไว้เท่านั้น ข้อมูลใดๆ ที่ถึงระยะเวลาเก็บรักษานั้น Google จะทำการลบโดยอัตโนมัติเดือนละครั้ง
โดยทั่วไป ผู้ใช้สามารถป้องกันการบันทึกคุกกี้หรือการเรียกใช้สคริปต์ เช่น Google Analytics ได้โดยการตั้งค่าที่สอดคล้องกันในซอฟต์แวร์เบราว์เซอร์ของตนหรือโดยการใช้ปลั๊กอินที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ผู้ใช้อาจไม่สามารถใช้คุณลักษณะและฟังก์ชันทั้งหมดของเว็บไซต์นี้ได้อีกต่อไป
หากคุณต้องการป้องกันไม่ให้ Google Analytics ทำงาน คุณสามารถทำได้ทุกเมื่อและให้มีผลในอนาคตโดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้:
ดูข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงข้อกำหนดและการตั้งค่าการปกป้องข้อมูลของ Google ได้ที่นี่:
Google Signals and Google remarketing / DoubleClick
หากคุณยินยอมตามหมวดหมู่ "สถิติ" และ "การตลาด" ผ่านแบนเนอร์คุกกี้หรือเครื่องมือยินยอมคุกกี้ของเรา (ความยินยอมตามกฎหมาย) เราจะเปิดใช้งานส่วนขยาย Google Analytics Google Signals บนเว็บไซต์ของเราด้วย อีกครั้ง ผู้ให้บริการคือ Google LLC (เดิมคือ Google Inc.), 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA 94043, USA ผู้ให้บริการที่รับผิดชอบสำหรับสหภาพยุโรปคือ Google Ireland Limited, Gordon House, Barrow Street, Dublin 4, Ireland ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "Google"
ด้วย Google Signals Google Analytics (ดูหัวข้อใน Google Analytics) จะบันทึกข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลประชากรและหมวดหมู่ความสนใจสำหรับผู้ใช้ Google ที่ได้เปิดใช้งานโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลในการตั้งค่า Google Google จะเชื่อมโยงข้อมูลนี้กับสัญญาณส่วนบุคคลเพื่อเปิดใช้งานการวิเคราะห์ข้ามอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม Google Analytics จะแสดงเฉพาะข้อมูลนี้ในรูปแบบที่ไม่ระบุตัวตนเป็นรายงานรวม ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมทั่วไปได้ เราไม่สามารถระบุตัวตนของคุณบนพื้นฐานนี้ได้
เราใช้ Google Signals เพื่อทำความเข้าใจเส้นทางดิจิทัลของผู้ใช้ของเราให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลแก่ผู้ใช้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราก่อนหน้านี้ (การกำหนดเป้าหมายใหม่) ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเป้าหมายพิเศษหรือกลุ่มเป้าหมายของ Google จึงถูกสร้างขึ้นภายใน Google Analytics ซึ่งสามารถใช้เป็นรายการรีมาร์เก็ตติ้งผ่านแพลตฟอร์มโฆษณาของ Google Ads และหากจำเป็น คุกกี้ DoubleClick เพื่อนำเสนอโฆษณาข้ามอุปกรณ์ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลไปยังเป้าหมายที่เลือก กลุ่ม ในกรณีนี้ โฆษณาสามารถแสดงในเครือข่ายโฆษณาของ Google ซึ่งรวมถึง Google Search, YouTube, ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google ตลอดจนเว็บไซต์บุคคลที่สามที่แสดงโฆษณาจากลูกค้าของ Google
เพื่อจุดประสงค์นี้ Google อาจใช้คุกกี้ DoubleClick บนเว็บไซต์ของเครือข่ายโฆษณาของ Google และสำหรับบริการเฉพาะของ Google เพื่อช่วยเหลือลูกค้า Google Ads และผู้เผยแพร่โฆษณาในการจัดวางและจัดการโฆษณาบนเว็บ เมื่อคุณเปิดเว็บไซต์และแสดงหรือคลิกโฆษณาที่วางผ่านเว็บไซต์ของเครือข่ายโฆษณาของ Google คุกกี้ DoubleClick อาจถูกเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ รหัสคุกกี้ DoubleClick ที่กำหนดให้กับเบราว์เซอร์ของคุณ เปรียบเสมือนรหัสที่ใช้เมื่อเข้าชมเว็บไซต์ที่ใช้โปรแกรมโฆษณา DoubleClick หากเบราว์เซอร์ของคุณมีคุกกี้ DoubleClick อยู่แล้ว ไม่ควรจัดเก็บคุกกี้ DoubleClick อีกต่อไป
หากคุณไม่เห็นด้วยกับการใช้ Google Signals คุณสามารถเพิกถอนความยินยอมที่ได้รับก่อนหน้านี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดในตัวจัดการคำยินยอมคุกกี้ของเรา และปิดใช้งานโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลในการตั้งค่า Google ส่วนบุคคลของคุณ: https://adssettings.google.com/
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Signals และข้อกำหนดในการปกป้องข้อมูลของ Google ได้ที่นี่:
META pixel (remarketing service)
หากคุณยินยอมในหมวดหมู่ "การตลาด" ผ่านแบนเนอร์คุกกี้หรือเครื่องมือยินยอมคุกกี้ของเรา (ความยินยอมตามกฎหมายมาตรา 6(1)(a) GDPR) เราจะใช้เครื่องมือ "META พิกเซล" ของเครือข่ายโซเชียล META บนเว็บไซต์ของเรา เว็บไซต์. "พิกเซลของ META" ดำเนินการโดย Meta Platforms Inc., 1601 S. California Ave, Palo Alto, CA 94304, USA หรือหากคุณอยู่ในสหภาพยุโรป โดย Meta Platforms Ireland Ltd., 4 Grand Canal Square, Grand Canal Harbour, ดับลิน 2 ไอร์แลนด์ ("META") นอกจากนี้ยังช่วยให้ META ใช้ข้อมูลต่อไปนี้เพื่อวัตถุประสงค์ของตนเอง:
(…)
วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูล
เราใช้ "META พิกเซล" ตามความยินยอมดังกล่าวข้างต้นตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุม (มาตรา 6(1)(f) GDPR) เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
นอกจากนี้ เราใช้ "พิกเซล META" เพื่อวัด วิเคราะห์ และเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาที่เราโพสต์บน META เช่น เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ใช้โต้ตอบกับเว็บไซต์ของเราหรือไม่หลังจากเห็นและอาจคลิกโฆษณาหรือไม่
ไม่มี "การจับคู่ข้อมูลขั้นสูง" เกิดขึ้นและไม่มีการอัปโหลดที่อยู่อีเมลไปยัง META (เรียกว่า "ผู้ชมที่กำหนดเองจากไฟล์")
สิทธิในการคัดค้าน / เพิกถอนความยินยอม
ด้วยการใช้ "พิกเซล META" เรายังต้องการให้แน่ใจว่าโฆษณา META ของเราตรงกับความสนใจของผู้ใช้และไม่ถูกมองว่าน่ารำคาญ หากคุณไม่เห็นด้วยกับการใช้งานนี้และ/หรือต้องการคัดค้าน คุณสามารถทำได้โดยปรับการตั้งค่า META ของคุณตามนั้นที่: https://www.META.com/settings?tab=ads นอกจากนี้ คุณสามารถเพิกถอนความยินยอมของคุณก่อนหน้านี้สำหรับการใช้ "พิกเซล META" ได้ตลอดเวลาและมีผลในอนาคตโดยเลือก "เปลี่ยนความยินยอมของคุณ" หรือ "เพิกถอนความยินยอมของคุณ" ภายใต้ "คุกกี้" ที่ด้านล่างของเว็บไซต์ของเรา
LinkedIn Insight Tag
หากคุณยินยอมในหมวดหมู่ "การตลาด" ผ่านแบนเนอร์คุกกี้หรือเครื่องมือยินยอมคุกกี้ของเรา (ความยินยอมตาม) เราจะใช้ "แท็กข้อมูลเชิงลึก LinkedIn" ของเครือข่ายโซเชียล LinkedIn บนเว็บไซต์ของเรา เว็บไซต์. แท็กข้อมูลเชิงลึกของ LinkedIn ดำเนินการโดย LinkedIn Corporation, 2029 Stierlin Court, Mountain View, CA 94043, USA หรือหากคุณอยู่ในสหภาพยุโรป โดย LinkedIn Ireland Unlimited Company, Wilton Place, Dublin 2, Ireland สิ่งนี้ยังช่วยให้ LinkedIn ใช้ข้อมูลต่อไปนี้เพื่อจุดประสงค์ของตนเอง:
ข้อมูลที่รวบรวมผ่านแท็กข้อมูลเชิงลึกของ LinkedIn จะถูกเข้ารหัสและไม่ระบุตัวตนภายในระยะเวลา 7 วัน LinkedIn ไม่ได้แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ กับเจ้าของเว็บไซต์ แต่ให้เฉพาะรายงานสรุปเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์และประสิทธิภาพของโฆษณา
ข้อมูลเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของคุณโดยหรือผ่านทาง LinkedIn สามารถดูได้ที่ https://www.linkedin.com/legal/privacy-policy
วัตถุประสงค์ในการประมวลข้อมูล
เราใช้ "แท็กข้อมูลเชิงลึกของ LinkedIn" ตามความยินยอมดังกล่าวตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุม เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
สิทธิในการคัดค้าน / เพิกถอนความยินยอม
ด้วยการใช้ "แท็กข้อมูลเชิงลึกของ LinkedIn" เรายังต้องการให้แน่ใจว่าโฆษณา LinkedIn ของเราตรงกับความสนใจของผู้ใช้และไม่ถูกมองว่าน่ารำคาญ หากคุณไม่เห็นด้วยกับการใช้งานนี้และต้องการคัดค้าน คุณสามารถทำได้โดยปรับการตั้งค่า LinkedIn ของคุณตามนั้นที่: https://www.linkedin.com/psettings/guest-controls/retargeting-opt-out
นอกจากนี้ คุณสามารถเพิกถอนความยินยอมที่ได้รับก่อนหน้านี้ของคุณในการใช้ "แท็กข้อมูลเชิงลึกของ LinkedIn" ได้ตลอดเวลาและมีผลในอนาคตโดยเลือก "เปลี่ยนความยินยอมของคุณ" หรือ "เพิกถอนความยินยอมของคุณ" ภายใต้ "คุกกี้" ที่ด้านล่างของเว็บไซต์ของเรา
อีเมลและจดหมายข่าว
คุณสามารถรับข่าวสารและข้อเสนอล่าสุดจากยุงค์ไฮน์ริชได้ทางจดหมายข่าวและอีเมล โดยป้อนที่อยู่อีเมลของคุณภายใต้หัวข้อ "จดหมายข่าว" คลิกที่ปุ่ม "สมัครรับข้อมูล" และยืนยันการสมัครของคุณอีกครั้งผ่านลิงก์ที่ส่งไปยังที่อยู่อีเมลที่คุณป้อนเข้ามา (double opt-in) เราจะดำเนินการและใช้ที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อส่งจดหมายข่าวตามที่ร้องขอหาคุณเป็นประจำ
ภายในขอบเขตของการลงทะเบียนจดหมายข่าวรวมถึงการส่งข้อมูลให้กับคุณ เราใช้ซอฟต์แวร์ระบบอัตโนมัติทางการตลาด Marketo Engage ของ Marketo EMEA Limited, 4-6 Riverwalk Drive, Citywest Business Campus, Cooldown Commons, Dublin 24, Ireland เพื่อจุดประสงค์นี้ เราได้ทำสัญญากับผู้ให้บริการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA ซึ่งผู้ให้บริการให้คำมั่นสัญญาว่าจะประมวลผลข้อมูลผู้ใช้ตามคำแนะนำของเราเท่านั้น และปฏิบัติตามข้อกำหนดการคุ้มครองข้อมูล ไม่รวมการส่งต่อข้อมูลไปยังบุคคลที่สาม
คุณมีสิทธิและสามารถที่จะยกเลิกการสมัครรับข่าวสารจากรายชื่อการแจกจ่ายจดหมายข่าวเมื่อใดก็ได้ ในตอนท้ายของจดหมายข่าวแต่ละฉบับ คุณจะพบลิงก์ยกเลิกการสมัครที่เกี่ยวข้อง หรือคุณสามารถยกเลิกการสมัครบนเว็บไซต์โดยใช้ลิงก์ในส่วนท้าย "ศูนย์การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว" หรือส่งอีเมลไปที่ marketing@jungheinrich.co.th พร้อมกับแจ้งคำขอยกเลิกการสมัคร
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ด้วยความช่วยเหลือของ Marketo เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์และมาตรการการสื่อสารของเราเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพข้อเสนอของเราให้สอดคล้องกัน และเพื่อดำเนินกิจกรรมการตลาด, ปรับแต่งสิ่งต่าง ๆ ให้ตรงกับคุณ และการขายทางอีเมล ในการดำเนินการดังกล่าว การประมวลผลบางส่วนจะเป็นไปโดยอัตโนมัติโดยมีจุดประสงค์เพื่อประเมินลักษณะส่วนบุคคลบางประการ (การทำโปรไฟล์/การแบ่งกลุ่มลูกค้า)
ข้อมูลหลักต่อไปนี้ได้รับผลกระทบ: ข้อมูลลูกค้าและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า (เช่น ชื่อ บริษัท ที่อยู่) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ (เช่น บทบาท วิชาชีพ) ความยินยอมทางการตลาด (เช่น ความยินยอมในจดหมายข่าว), ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ (เช่น ระยะเวลาเข้าชม, พฤติกรรมการคลิก, จำนวนหน้าที่เข้าชม, เอกสารที่ดาวน์โหลด ), ข้อมูลจากแคมเปญการตลาด (เช่น การเข้าชมเว็บไซต์ การลงทะเบียนสัมมนาผ่านเว็บ ) ข้อมูลสัญญาและการจัดส่ง (เช่น วันที่สั่งซื้อหรือวันที่จัดส่ง) และข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้า (เช่น จากการสำรวจ)
นอกจากนี้ เรายังจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์ที่คุณใช้และการตั้งค่าที่ทำในระบบปฏิบัติการของคุณ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่คุณใช้เข้าถึงเว็บไซต์ของเรา ผ่านทางจดหมายข่าวที่ส่งถึงคุณ ทั้งเมื่อคุณได้รับและเปิดอ่าน ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับลิงก์ที่คุณคลิกในจดหมายข่าวของเรา เรายังจัดเก็บพื้นที่ที่คุณเยี่ยมชมไว้ภายในเว็บไซต์และในแอพของเรา
วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูล
ด้วยความช่วยเหลือของข้อมูลนี้ เราใช้กิจกรรมการตลาดทางอีเมลตามปกติและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโอกาสต่างๆ เช่น จดหมายข่าว คำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม (ดิจิทัล) อีเมลสานความสัมพันธ์ และการส่งจดหมายอัตโนมัติ เช่น หลังจากดาวน์โหลดเอกสารแนบ (กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโอกาสต่างๆ)
นอกจากนี้ ข้อมูลของคุณอาจถูกใช้ในการปรับแต่งเนื้อหาที่แสดงบนเว็บไซต์ตามพฤติกรรมการใช้งานของคุณหากคุณได้ให้ความยินยอมเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการความยินยอมของเรา เช่น การแสดงแคมเปญที่เกี่ยวข้อง ข้อเสนอหรือสิ่งแนะนำต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถใช้ข้อมูลการกำหนดเป้าหมายเพื่อแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมายแก่คุณในข้อเสนอออนไลน์อื่น ๆ ผ่านทางพันธมิตรด้านการโฆษณา
หากต้องการทราบว่าบริการใดของบริษัทของเราที่คุณสนใจเป็นพิเศษ เราจะสร้างโปรไฟล์การติดต่อ โปรไฟล์ผู้ติดต่อเสร็จสมบูรณ์โดยใช้วิธีการวิเคราะห์และสถิติตามอัลกอริทึมแบบฮิวริสติก วิธีการนี้เรียกอีกอย่างว่าการให้คะแนนผู้ติดต่อและการแบ่งส่วน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ส่วนคุกกี้และการติดตาม ข้อมูลยังใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติ
พื้นฐานทางกฎหมาย
พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณใน Marketo และการส่งอีเมลหรือจดหมายข่าวถึงคุณคือความยินยอมของคุณในแบบฟอร์มการติดต่อ (ช่องทำเครื่องหมายแยกต่างหากสำหรับจดหมายข่าว) หรือแบบฟอร์มจดหมายข่าว การลงทะเบียนรับจดหมายข่าวเป็นไปโดยสมัครใจและการประมวลผลข้อมูลขึ้นอยู่กับความยินยอมของคุณตามประมวลกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA).
ทั้งนี้ขึ้นอยู่ความยินยอมของคุณผ่านแบนเนอร์คุกกี้หรือเครื่องมือยินยอมคุกกี้ เราจะประเมินพฤติกรรมผู้ใช้ของคุณบนเว็บไซต์ของเรารวมถึงภายในจดหมายข่าวที่เราส่งและกำหนดให้กับที่อยู่อีเมล / โปรไฟล์ผู้ใช้ของคุณภายในฐานข้อมูลของเรา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลที่ Marketo โปรดไปที่:
https://documents.marketo.com/toutapp/privacy
https://legal.marketo.com/vertrauen/legal/datenschutz/
คุกกี้และการติดตาม
Marketo รวบรวมที่อยู่ IP ของคุณ และใช้คุกกี้เพื่อติดตามและวิเคราะห์การใช้งานไซต์ เพื่อให้ข้อมูลซึ่งปรับให้เหมาะกับความสนใจของผู้ใช้โดยเฉพาะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้ โปรดดู "คุกกี้ - ข้อมูลทั่วไป" ข้อมูลที่สร้างโดยคุกกี้จะถูกโอนไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Marketo (ตั้งอยู่ใน EU/EEA) และจัดเก็บไว้ที่นั่น คุณสามารถป้องกันการจัดเก็บคุกกี้ได้โดยตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณตามนั้น อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณอาจส่งผลให้คุณไม่สามารถใช้ฟังก์ชันทั้งหมดของข้อเสนอออนไลน์ของเราได้
กรณีปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ
คุณสามารถคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้ตลอดเวลา
จดหมายข่าว: คุณมีสิทธิและสามารถที่จะยกเลิกการสมัครรับจดหมายข่าวจากรายชื่อการแจกจ่ายจดหมายข่าวได้ตลอดเวลา ในตอนท้ายของจดหมายข่าวแต่ละฉบับ คุณจะพบลิงก์ยกเลิกการสมัครที่เกี่ยวข้อง หรือคุณสามารถยกเลิกการสมัครบนเว็บไซต์โดยใช้ลิงก์ในส่วนท้าย "ศูนย์การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว" หรือส่งอีเมลไปที่ marketing@jungheinrich.co.th พร้อมกับคำขอยกเลิกการสมัคร
การติดตาม: คุณสามารถเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ในการรวบรวมข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยมีผลในอนาคตโดยปฏิเสธการใช้คุกกี้และสคริปต์เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติในตัวจัดการการยินยอมคุกกี้ของเรา (https://www.jungheinrich.co.th/cookies)
เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเห็นโฆษณาที่ปรับแต่งส่วนบุคคลนอกเหนือจากการเสนอบริการทางออนไลน์ของเรา คุณยังสามารถปรับการตั้งค่าโฆษณาในบัญชีผู้ใช้ของคุณบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ (เช่น Google) และปิดการใช้งานโฆษณาที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้
ในบริบทของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับ Marketo จะใช้ศูนย์ข้อมูลในสหภาพยุโรปเท่านั้น ในกรณีที่ข้อมูลได้รับการประมวลผลในสหรัฐอเมริกา เช่น สำหรับการบำรุงรักษาและการสนับสนุน ให้ใช้ข้อสัญญามาตรฐานยุโรป
การติดต่อ
ในกรณีที่คุณต้องการติดต่อเรา (ผ่านแบบฟอร์มการติดต่อหรืออีเมล) รายละเอียดของผู้ใช้จะได้รับการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการคำขอติดต่อและการประมวลผลตามประมวลกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA (สำหรับการดำเนินการตามมาตรการก่อนทำสัญญา)
รายละเอียดของผู้ใช้อาจถูกจัดเก็บไว้ในระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ ("ระบบ CRM") ในระบบการตลาดอัตโนมัติของเรา (Marketo EMEA Limited, 4-6 Riverwalk Drive, Citywest Business Campus, Cooldown Commons, Dublin 24, Ireland) หรือองค์การสอบสวนที่เทียบเคียงได้
ในเยอรมนี เราใช้ระบบ CRM "SAP Hybris Cloud สำหรับลูกค้า" และ "SAP CRM" ของผู้ให้บริการ SAP บนพื้นฐานของผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเรา (การประมวลผลคำขอของผู้ใช้ที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว) เพื่อจุดประสงค์นี้ เราได้ทำสัญญากับผู้ให้บริการตามประมวลกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA ซึ่งผู้ให้บริการรับปากว่าจะประมวลผลข้อมูลผู้ใช้ตามคำแนะนำของเราเท่านั้น และปฏิบัติตามระดับการปกป้องข้อมูลของสหภาพยุโรป
ในกรณีที่คุณเลือกหมวดหมู่นักลงทุนสัมพันธ์ สื่อ หรือ HR เราจะประมวลผลข้อมูลของคุณโดยเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ในการตอบคำถามของคุณ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง
ระบบบริหารจัดการความยินยอม
เราใช้บริการซึ่งมีพื้นฐานอยู่บนอินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการ OneTrust Technology Limited ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ 82 St John St, Farrington, London EC1M 4JN, UK (“OneTrust) ในการเก็บรวบรวม จัดเก็บ และจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่เกี่ยวข้องกับความยินยอมเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดเพื่อทำให้แน่ใจว่าเราสามารถรับและจัดการความยินยอมของคุณเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูล โดย OneTrust ช่วยให้เราจัดการการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของคุณได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ คุณจะพบลิงก์ที่เกี่ยวข้องสำหรับจัดการความยินยอมเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดของคุณในตอนท้ายของจดหมายข่าวแต่ละฉบับหรือคุณสามารถเข้าถึงได้ผ่านลิงก์ด้านล่างของเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถเลือกให้ความยินยอมหรือเพิกถอนความยินยอมและปรับตั้งค่าการคุ้มครองข้อมูลของคุณได้
คุณมีสิทธิและสามารถเลือกยกเลิกจากการเป็นผู้ที่อยู่ในรายชื่อผู้รับจดหมายข่าวได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ โปรดทราบว่า OneTrust เป็นผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สามที่กระทำการในนามของเราและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลและตามคำสั่งของเรา โดยเราได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณและป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การสูญหาย หรือการใช้ในทางที่ผิด สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่จะถูกเก็บรวบรวมและระยะเวลาที่ข้อมูลจะถูกเก็บรักษา วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ สิทธิของคุณภายใต้กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูล ข้อมูลการติดต่อของเรา และรายละเอียดอื่น ๆ สามารถศึกษาได้จาก Data privacy (jungheinrich.co.th)
เพื่อให้คุณสามารถเข้าใช้งานทุกฟังก์ชั่นของพอร์ทัล myJungheinrich คุณจำเป็นที่จะต้องสร้างบัญชี “JungheinrichID”เพื่อเข้าใช้งานก่อน
การสร้างบัญชีใช้งาน Jungheinrich ID และการตรวจสอบการเข้าถึงพอร์ทัล myJungheinrich เราจะดำเนินการผ่านผู้ให้บริการ Microsoft
Microsoft Enterprise Service
Microsoft Corporation
One Microsoft Way
Redmond
Washington 98052, USA
ตัวแทนด้านการปกป้องข้อมูลในเขตเศรษฐกิจยุโรปและสวิตเซอร์แลนด์:
Microsoft Ireland Operations, Ltd.
One Microsoft Place
South County Business Park
Leopardstown
Dublin 18, D18 P521, Ireland
ในระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียน โปรดให้ข้อมูลที่จำเป็นกับเราดังต่อไปนี้:
เราจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามรายละเอียดข้างต้น เพื่อดำเนินการติดต่อและประสานงานกลับหาคุณ รวมถึงการขอความยินยอมใช้ข้อมูลจากคุณก่อน ทั้งนี้เราจะจัดเก็บและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้เป็นความลับ ตามประมวลผลทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย PDPA
คุณสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเราได้เช่นเดียวกันกับข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการลงทะเบียนผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถระบุตัวตนและติดต่อกลับหาคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น หมายเลขบริษัทของลูกค้าที่ต้องการให้เราติดต่อกลับ
คุณไม่จำเป็นต้องใช้หมายเลขลูกค้าในการสร้างบัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องมีหมายเลขลูกค้าสำหรับการใช้งานในพอร์ทัล
การใช้บริการอื่นๆ ของยุงค์ไฮน์ริช
การเข้าถึงพอร์ทัล myJungheinrich คุณจะสามารถใช้สินค้าดิจิทัลและบริการเว็บต่างๆ ของยุงค์ไฮน์ริชได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจง ในบริบทนี้ โปรดตรวจสอบระเบียบข้อบังคับด้านการคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้ ซึ่งคุณจะพบได้ในคำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคลของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับสินค้าดิจิทัล
การใช้บริการดิจิทัลบางอย่างจำเป็นต้องมีการตรวจสอบบัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID ของคุณ และเพื่อจุดประสงค์นี้ บัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID ของคุณจะต้องเชื่อมโยงกับบัญชีลูกค้าผ่านการใช้หมายเลขลูกค้า หากคุณเป็นลูกค้าของยุงค์ไฮน์ริชอยู่แล้ว คุณสามารถระบุหมายเลขลูกค้าของคุณในระหว่างที่คุณทำการลงทะเบียน ซึ่งจะทำให้เราสามารถกำหนดบัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID ของคุณให้ตรงกันกับบัญชีลูกค้าบริษัทของคุณได้
เพื่อให้ขั้นตอนการลงทะเบียนครบถ้วนและสมบูรณ์ คุณต้องเลือกรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบบัญชีผู้ใช้ของคุณร่วมกับชื่อผู้ใช้ที่ได้รับมอบหมาย
หากคุณต้องการขอเปิดใช้งานบริการเฉพาะผ่านทางพอร์ทัล myJungheinrich เราอาจต้องใช้อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณให้ไว้ระหว่างการสร้างบัญชีผู้ใช้ของคุณ เพื่อติดต่อกลับหาคุณ และเพื่อให้เราสามารถยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณได้ให้ไว้ระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียนได้ หากมีการติดต่อสื่อสารที่ต่างออกไปจากวัตถุประสงค์ที่เราแจ้งนี้ไปหาคุณ คุณสามารถดำเนินการร้องเรียนเหตุที่เกิดขึ้นนี้ได้ทันทีโดยที่คุณไม่ต้องแจ้งให้เราทราบล่วงหน้า ตามกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล PDPA
เราจะไม่มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาลักษณะอื่นนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้
ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการลงทะเบียนตลอดจนข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ ที่คุณให้ไว้โดยสมัครใจ รวมถึงชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า "ข้อมูลการเข้าถึง") จะถูกประมวลผลโดยยุงค์ไฮน์ริชและกลุ่มที่เกี่ยวข้องของเราเท่านั้น (ถ้ามี)
ข้อมูลการลงทะเบียนของคุณจะถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่สามตามคำอธิบายดังต่อไปนี้:
ดังนั้น พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเปรียบเสมือนความยินยอมของคุณ เช่นเดียวกับผลประโยชน์โดยชอบตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA
การแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านพอร์ทัล myJungheinrich
หลังจากที่คุณได้สร้างบัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID แล้ว ข้อมูลการลงทะเบียนของคุณจะถูกประมวลผลโดยเรา และบริษัทในเครือของเราเท่านั้น เพื่อให้เราสามารถติดต่อกลับหาคุณเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการดิจิทัล หรือเพื่อให้คุณสามารถรับฟังข้อเสนอจากยุงค์ไฮน์ริชหรือบริษัทในเครือของเราได้ รวมทั้งให้เราดำเนินการกับคำขอที่คุณส่งผ่านพอร์ทัล myJungheinrich เข้ามาได้
แบบฟอร์มข้อเสนอแนะ
คุณสามารถกรอกแบบฟอร์มข้อเสนอแนะในพอร์ทัล myJungheinrich เพื่อแจ้งให้เราทราบเกี่ยวกับความพึงพอใจในที่มีต่อการใช้งานพอร์ทัล myJungheinrich เวอร์ชั่นปัจจุบันของเราได้ คุณสามารถแจ้งความต้องการและข้อเสนอแนะที่คุณอยากให้เราพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อคุณภาพในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต และเพื่อให้เราสามารถประเมินข้อเสนอแนะของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณได้เคยให้ไว้กับเราในข้างต้น ได้แก่ อีเมล ชื่อและนามสกุล รวมทั้งรหัสไปรษณีย์อาจถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งข้อมูลที่คุณให้กับเราไว้นั้นจะถูกนำไปพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้หากในแบบฟอร์มข้อเสนอแนะคุณได้มีการยินยอมให้เราติดต่อติดต่อกลับ พนักงานของยุงค์ไฮน์ริช อาจติดต่อกลับหาคุณทางอีเมล
ปิดใช้งาน/ลบบัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID
ข้อมูลที่เรารวบรวมระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียนจะถูกจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลา 6 เดือน ทุกครั้งที่คุณทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบพอร์ทัล myJungheinrich ระยะเวลาการจัดเก็บนี้จะถูกขยายออกไปอีก 6 เดือน
คุณสามารถส่งคำขอให้เราลบบัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID ของคุณได้โดยเข้าไปที่ "บัญชี" ในพอร์ทัล myJungheinrich ในกรณีนี้บัญชีผู้ใช้ของคุณจะถูกปิดใช้งานเป็นเวลา 30 วัน คุณจะไม่สามารถเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ปิดใช้งานได้อีกต่อไป ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถใช้บริการผู้ใช้แบบลงทะเบียนได้ ทั้งนี้คุณสามารถขอเปิดใช้งานบัญชีผู้ใช้ของคุณใหม่ได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน (นับจากวันที่ทำการส่งคำขอปิดบัญชีผู้ใช้) โปรดส่งคำขอที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของคุณไปที่ it-servicedesk@jungheinrich.com หากครบกำหนดระยะเวลา 30 วัน บัญชีผู้ใช้ Jungheinrich ID ของคุณจะถูกลบอย่างถาวร
ข้อมูลทั่วไป
ด้วยความยินยอมของคุณหรือผลประโยชน์อันชอบธรรมของเรา เราอาจรวมบริการและเนื้อหาของบุคคลที่สามในเว็บไซต์ของเรา บริการเหล่านี้รวมถึงฟังก์ชันโซเชียลมีเดีย วิดีโอ บริการแผนที่ บริการ CAPTCHA บริการจัดการแท็ก และเครื่องมือยินยอมคุกกี้ ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้บริการส่วนบุคคลของเรามีให้ด้านล่าง
LinkedIn Lead Gen Form
เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญโฆษณาของเรา หากคุณกรอกแบบฟอร์ม ("LinkedIn Lead Gen Form") บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก LinkedIn และส่งให้เรา คุณจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เรา ซึ่งเราจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณามาตรฐาน โดยเฉพาะ เพื่อติดต่อคุณทางโทรศัพท์และเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราที่คุณอาจสนใจ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการ LinkedIn และคำชี้แจงสิทธิส่วนบุคคลของข้อมูล LinkedIn ระบุไว้ในส่วนด้านบน ("LinkedIn") ในการส่งแบบฟอร์มถึงเรา คุณยินยอมให้ใช้ข้อมูลที่ส่ง
คุณมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมนี้ได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องระบุเหตุผล โดยส่งอีเมลไปที่ info@jungheinrich.co.th เมื่อประกาศแล้ว การเพิกถอนนี้จะส่งผลต่อการอนุญาตการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
Friendly Captcha
เราใช้บริการ “Friendly Captcha” จาก Friendly Captcha GmbH, Am Anger 3-5, 82237 Wörthsee (เยอรมนี) บนเว็บไซต์ของเรา Friendly Captcha ใช้เพื่อตรวจสอบว่ามีการป้อนข้อมูลบนเว็บไซต์ของเรา (เช่น ในแบบฟอร์มติดต่อ) โดยมนุษย์หรือโดยโปรแกรมอัตโนมัติ เพื่อจุดประสงค์นี้ Friendly Captcha จะรวบรวมข้อมูลบันทึกต่อไปนี้:
การประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Friendly Captcha ดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ในการรับประกันความปลอดภัยของเว็บไซต์ของเรา พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการประมวลผลข้อมูลคือมาตรา 6 (1) (f) GDPR ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเราอยู่ที่การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของการประมวลผลข้อมูล ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Friendly Captcha จัดการข้อมูลของคุณ สามารถพบได้บนเว็บไซต์และในประกาศการคุ้มครองข้อมูลของผู้ให้บริการ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านลิงก์ต่อไปนี้: https://friendlycaptcha.com/, ประกาศการคุ้มครองข้อมูล: https://friendlycaptcha.com/legal/privacy-end-users/
Google Maps
บนเว็บไซต์ของเรา เราใช้ Google Maps เพื่อแสดงตำแหน่งของเราและสร้างเส้นทางเส้นทาง นี่คือบริการที่ให้บริการโดย Google LLC, 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA 94043 USA ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "Google"
เพื่อให้แสดงแบบอักษรเฉพาะบนเว็บไซต์ของเรา การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ Google ในสหรัฐอเมริกาถูกสร้างขึ้นเมื่อเปิดเว็บไซต์ของเรา หากคุณเข้าถึงองค์ประกอบ Google แผนที่ที่รวมอยู่ในเว็บไซต์ของเรา Google จะบันทึกคุกกี้บนอุปกรณ์ปลายทางของคุณผ่านทางอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของคุณ ในการแสดงตำแหน่งของเราและสร้างเส้นทาง การตั้งค่าผู้ใช้และข้อมูลของคุณจะถูกประมวลผล เราไม่สามารถแยกความเป็นไปได้ที่ Google จะใช้เซิร์ฟเวอร์ในสหรัฐอเมริกาเพื่อจุดประสงค์นี้
พื้นฐานทางกฎหมายในกรณีนี้คือความยินยอมของคุณตามกฎหมาย การผนวกรวมบริการนี้ในเวลาต่อมายังสนับสนุนผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเราในการปรับฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ของเราให้เหมาะสม
การเชื่อมต่อที่สร้างกับ Google ทำให้ Google สามารถระบุได้ว่าคำขอของคุณมาจากเว็บไซต์ใดและที่อยู่ IP ใดที่จะส่งรายละเอียดเส้นทาง หากคุณไม่เห็นด้วยกับการประมวลผลข้อมูลนี้ คุณสามารถเลือกที่จะบล็อกการติดตั้งคุกกี้โดยทำการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องในอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของคุณ รายละเอียดเพิ่มเติมระบุไว้ข้างต้นภายใต้ "คุกกี้"
นอกจากนี้ Google Maps และข้อมูลที่ได้รับผ่าน Google Maps ยังใช้ตามข้อกำหนดในการให้บริการของ Google และข้อกำหนดในการให้บริการเพิ่มเติมสำหรับ Google Maps สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://adssettings.google.com/authenticated และ https://policies.google.com/privacy
Google Tag Manager
ตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเรา (เช่น ความสนใจในการวิเคราะห์ การเพิ่มประสิทธิภาพ และการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพของสถานะออนไลน์ของเรา และเพื่อเป็นการเติมเต็มความโปร่งใสและภาระผูกพันทางกฎหมาย เว็บไซต์นี้ทำให้ การใช้ Google Tag Manager นี่คือบริการจัดการแท็กที่ให้บริการโดย Google LLC (เดิมคือ Google Inc.), 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, CA 94043, USA ผู้ให้บริการที่รับผิดชอบสำหรับสหภาพยุโรปคือ Google Ireland Limited, Gordon House, Barrow Street, Dublin 4, Ireland ซึ่งต่อจากนี้จะเรียกว่า "Google"
บริการนี้อนุญาตให้จัดการแท็กเว็บไซต์ผ่านอินเทอร์เฟซ Google Tag Manager ใช้งานสคริปต์และบริการทั่วไปบนเว็บไซต์ของเราตามกฎและทริกเกอร์ที่กำหนดไว้ และอาจใช้คุกกี้ พิกเซลการติดตาม หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน และยังรวบรวมข้อมูลอีกด้วย ซึ่ง Google Tag Manager ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นบริการติดตามหรือวิเคราะห์ แต่เปิดใช้งานการผสานรวมของบริการดังกล่าว รวมถึงการรวมสคริปต์การเลือกไม่ใช้ (วิธีการคัดค้าน) และฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกัน Google Tag Manager จึงทำหน้าที่เป็นตัวช่วยที่ประเมินค่าไม่ได้ในการบรรลุความโปร่งใสและภาระผูกพันทางกฎหมายในด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ตัวอย่างเช่น ตามความยินยอมที่คุณอาจให้ผ่านตัวจัดการความยินยอมคุกกี้ของเรา เราสามารถใช้บริการนี้เพื่อควบคุมว่าการวิเคราะห์หรือบริการโฆษณาจะรวมอยู่ในเว็บไซต์ของเราหรือไม่
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Tag Manager และการปกป้องข้อมูลของ Google มีอยู่ในลิงก์ต่อไปนี้:
ผู้ใช้มีตัวเลือกในการป้องกันการส่งแท็กทางสถิติและการตลาดในอนาคตจาก Google Tag Manager ในการดำเนินการดังกล่าว ผู้ใช้ต้องคลิกลิงก์เลือกไม่รับนี้เพื่อตั้งค่าคุกกี้ให้ปิดใช้งาน Google Tag Manager ในอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของตน ซึ่งจะบล็อกการบูรณาการในอนาคตผ่าน Google Tag Manager สำหรับเบราว์เซอร์นี้เท่านั้น และไม่ใช่สำหรับเบราว์เซอร์อื่นๆ และ/หรืออุปกรณ์ปลายทาง ไม่มีคุกกี้ที่มีอยู่ถูกลบ นอกจากนี้ เราชี้แจงอย่างชัดเจนว่าผู้ใช้อาจไม่สามารถใช้คุณลักษณะและฟังก์ชันทั้งหมดของเว็บไซต์ได้อีกต่อไปในกรณีนี้ หากคุณลบคุกกี้ทั้งหมดในเบราว์เซอร์ของคุณ คุณจะต้องตั้งค่ายกเลิกคุกกี้อีกครั้ง
CookieBot
ตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเรา ในข้อมูลของผู้ใช้ของเราและเพื่อให้เป็นไปตามความโปร่งใสและภาระผูกพันทางกฎหมายของเรา เว็บไซต์นี้ใช้ตัวจัดการความยินยอมคุกกี้/เครื่องมือ CookieBot ผู้ให้บริการคือ Cybot A/S, Havnegade 39, 1058 โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก
บริการ CookieBot ช่วยให้เราสามารถให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการใช้การวิเคราะห์และบริการโฆษณาตลอดจนคุกกี้ของบริการดังกล่าว และเพื่อขอรับและจัดการความยินยอมของคุณในการประมวลผลข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลต่อไปนี้จะถูกเก็บรวบรวม ได้แก่:
ข้อมูลจะถูกจัดเก็บโดย CookieBot เพื่อเป็นหลักฐานแสดงความยินยอมของผู้ใช้ คีย์ช่วยให้ตรวจสอบความยินยอมของผู้ใช้ย้อนหลังได้ คีย์และสถานะความยินยอมที่เกี่ยวข้องจะถูกเก็บไว้ในคุกกี้ "CookieConsent" เป็นระยะเวลา 12 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าการตั้งค่าของผู้ใช้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงสำหรับคำขอหน้าในอนาคตทั้งหมดบนเว็บไซต์ของเราโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องทำการเลือกใหม่ทุกครั้งที่เข้าชม
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดการปกป้องข้อมูลของ CookieBot หรือ Cybot A/S สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่: https://www.cookiebot.com/de/privacy-policy/
สามารถดูภาพรวมที่สร้างโดย CookieBot สำหรับเว็บไซต์ของเราได้ Cookies.
YouTube
หากคุณยินยอมในหมวดหมู่ "การตลาด" ผ่านแบนเนอร์คุกกี้หรือเครื่องมือยินยอมคุกกี้ของเรา (ความยินยอมตามกฎหมาย) เราอาจใช้ฟังก์ชันของบริการ YouTube เพื่อแสดง และเล่นวิดีโอบนเว็บไซต์ของเรา โดยฟังก์ชันเหล่านี้ให้บริการโดย YouTube, LLC 901 Cherry Ave. San Bruno, CA 94066, USA ข้อมูลเพิ่มเติมมีอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ YouTube
ในกรณีนี้ โหมดการปกป้องข้อมูลที่ปรับปรุงแล้วจะถูกใช้ ซึ่งตามที่ผู้ให้บริการระบุ ข้อมูลผู้ใช้จะถูกเก็บไว้ระหว่างการเล่นวิดีโอเท่านั้น เมื่อผู้ใช้เริ่มเล่นวิดีโอ YouTube แบบฝัง
YouTube อาจใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลอื่นๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ ตาม YouTube สิ่งนี้ทำได้เพื่อบันทึกสถิติวิดีโอ มาปรับปรุงการใช้งานและป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด การรวมบริการ YouTube อาจส่งผลให้เกิดการเชื่อมต่อกับเครือข่าย "DoubleClick" ของ Google โดยไม่ขึ้นกับการเล่นวิดีโอที่ฝังไว้ ซึ่งสามารถกระตุ้นการดำเนินการประมวลผลข้อมูลเพิ่มเติมซึ่ง ยุงค์ไฮน์ริชไม่มีอำนาจในส่วนนี้
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ YouTube บทบัญญัติด้านการปกป้องข้อมูล และตัวเลือกการตั้งค่ามีอยู่ที่นี่:
Vimeo
ยุงค์ไฮน์ริชขอเสนอบริการส่งวิดีโอที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถเข้าถึงงานแถลงข่าวของเราได้จากระยะไกล สำหรับการส่งสัญญาณนี้ เราใช้บริการของผู้ให้บริการ Vimeo, Inc., 555 West 18th Street, New York, New York 10011, USA
ยุงค์ไฮน์ริชไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ อันเป็นผลมาจากการประมวลผลข้อมูล
ด้วยเหตุผลทางเทคนิค การใช้ฟังก์ชันวิดีโอนี้จำเป็นต้องเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ Vimeo เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ปลายทางของคุณ เราแนะนำให้คุณอ่านประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เกี่ยวข้องของผู้ให้บริการหรือของผู้ควบคุมที่รับผิดชอบด้านการประมวลผลข้อมูลในลักษณะนี้ สามารถดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของ Vimeo ได้ที่: https://vimeo.com/privacy
คู่มือผลิตภัณฑ์ Excentos
หากคุณยินยอมในหมวดหมู่ "การตลาด" ผ่านแบนเนอร์คุกกี้หรือเครื่องมือยินยอมคุกกี้ของเรา (ความยินยอมตามกฎหมาย) เราจะใช้คู่มือผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของเราเพื่อให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ออนไลน์แก่ผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก ในกระบวนการคัดเลือกผลิตภัณฑ์และช่วยให้เราสามารถนำเสนอการบริการลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ผู้ให้บริการคู่มือผลิตภัณฑ์คือ excentos Software GmbH, Reiterweg 1, 14469 Potsdam, Germany
คู่มือผลิตภัณฑ์จะบันทึกกิจกรรมของผู้ใช้ เช่น ตัวเลือกการตอบสนองที่เลือกและกิจกรรมการนำทางในคู่มือผลิตภัณฑ์ ข้อมูลการใช้งานนี้ถูกจัดเก็บอย่างถาวรในระบบวิเคราะห์เว็บไซต์ที่ดำเนินการโดย excentos ไม่มีการจัดเก็บที่อยู่ IP ไว้ในระบบวิเคราะห์เว็บไซต์ และข้อมูลที่เก็บไว้ทั้งหมดจะไม่เปิดเผยชื่อ นอกจากนี้ คู่มือผลิตภัณฑ์หรือบริการเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นจะต้องรวบรวมที่อยู่ IP และกิจกรรมของผู้ใช้โดยพิจารณาจากความสมดุลของผลประโยชน์ เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ มาตรการที่ได้มีการป้องกันไว้ก่อนนี้จำเป็นสำหรับเราที่จะสามารถให้บริการของเราได้ ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวเพื่อระบุรูปแบบการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากนั้น ที่อยู่ IP รวมถึง ข้อมูลบันทึกทั้งหมดจะถูกลบอย่างสมบูรณ์ กิจกรรมของผู้ใช้ระหว่างเซสชันพร้อมคู่มือผลิตภัณฑ์จะถูกบันทึกไว้ด้วย นี่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฟังก์ชันพื้นฐานของคู่มือผลิตภัณฑ์ รวมถึง การโต้ตอบและคำแนะนำที่สร้าง ข้อมูลนี้ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำเท่านั้น แต่ไม่ได้เก็บไว้อย่างต่อเนื่อง
การใช้คู่มือผลิตภัณฑ์ ตลอดจนคำแนะนำ การค้นหา และระบบแชทบ็อตที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้ แสดงว่าคุณยินยอมตามเงื่อนไขเหล่านี้
เมื่อใช้คู่มือผลิตภัณฑ์ที่รวมอยู่ในเว็บไซต์นี้ คุณสามารถป้องกันการรวบรวมข้อมูลของคุณโดยระบบวิเคราะห์เว็บของ excentos และดูหรือเปลี่ยนสถานะได้โดยคลิกลิงก์ต่อไปนี้ โดยการตั้งค่าคุกกี้ opt-out ซึ่งป้องกันการรวบรวมข้อมูลของคุณในการเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้ในอนาคต หรือคุณสามารถเพิกถอนความยินยอมก่อนหน้าของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด ซึ่งในกรณีนี้คู่มือผลิตภัณฑ์ excentos จะไม่ถูกโหลดบนเว็บไซต์ของเราอีกต่อไป
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามประกาศนี้ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัทฯ
การเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลที่สามจะเกิดขึ้นภายใต้ขอบเขตของข้อกำหนดทางกฎหมายและเฉพาะในขอบเขตที่อธิบายไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวเท่านั้น เราจะเปิดเผยข้อมูลไปยังบุคคลที่สามเมื่อจำเป็นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ด้วยเหตุผลบนพื้นฐานของสัญญาภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) หรือ เพื่อสนับสนุนผลประโยชน์อันชอบธรรมของเรา โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจของเราอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
หากเราว่าจ้างบุคคลอื่นเพื่อให้บริการใด ๆ เราจะใช้มาตรการป้องกันทางกฎหมายที่เหมาะสม เช่นเดียวกับมาตรการทางเทคนิคและการจัดการองค์กรที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกหรือหน่วยงานต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ในบางกรณี บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลหรือหน่วยงานในต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแตกต่างไปจากประเทศไทย นอกจากนี้บริษัทฯ อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวจะอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์และข้อจำกัดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ดังต่อไปนี้ โดยท่านสามารถแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ตามช่องทางที่บริษัทฯกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด รวมถึงข้อมูลการชำระเงิน จะถูกส่งโดยใช้การเข้ารหัส SSL (Secure Sockets Layer) ที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม SSL เป็นมาตรฐานที่ปลอดภัย ทดลองและทดสอบแล้ว ซึ่งยังใช้ในธนาคารออนไลน์อีกด้วย เป็นต้น คุณสามารถระบุการเชื่อมต่อ SSL ที่ปลอดภัยโดยใช้คำนำหน้า "https" (เช่น https://...) ในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ของคุณ หรือโดยสัญลักษณ์แม่กุญแจที่ส่วนล่างของหน้าต่างเบราว์เซอร์
นอกจากนี้ เราใช้มาตรการทางเทคนิคและความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่เราจัดเก็บไว้จากการยักย้ายถ่ายเท การสูญหายบางส่วนหรือทั้งหมด และการเข้าถึงโดยบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรการรักษาความปลอดภัยของเราได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ทางเราใช้บริการออนไลน์ของ Qualtrics LLC (333 W. River Park Drive, Provo, UT 84604, USA) เพื่อดำเนินการสำรวจความคิดเห็นและเปิดโอกาสให้คุณให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริการและผลิตภัณฑ์ของเรา ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณอาจได้รับอีเมลเชิญให้ดำเนินการตอบแบบสอบถาม ซึ่งช่วยให้พนักงานที่รับผิดชอบสามารถปรับปรุงการให้บริการ และหากจำเป็นสามารถดำเนินมาตรการที่เหมาะสมต่อไปได้
เมื่อคุณคลิกลิงก์ที่ให้มาเพื่อทำแบบสอบถาม ระบบจะนำคุณไปยังเว็บไซต์ของ Qualtrics LLC ซึ่งข้อกำหนดและเงื่อนไขของเว็บไซต์ปลายทางจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ คุณจำเป็นต้องเปิดใช้งานคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อทำแบบสอบถามให้สำเร็จ การเปิดใช้งานคุกกี้ช่วยให้คุณสามารถหยุดชั่วคราวและกลับมาทำแบบสอบถามต่อได้ภายในเวลาสูงสุดหนึ่งสัปดาห์โดยเปิดลิงก์แบบสำรวจอีกครั้ง หากคุณไม่ได้ดำเนินการตอบแบบสอบถามให้เสร็จสิ้น คำตอบของคุณจะถูกบันทึกเป็นความคิดเห็นสุดท้ายหลังจากเจ็ดวัน
คุณสามารถปฏิเสธการจัดเก็บคุกกี้ได้ตลอดเวลาในการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณ หากคุณปฏิเสธ อาจทำให้คุณไม่สามารถเข้าร่วมการตอบแบบสอบถามของเราได้ คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุกกี้ของ Qualtrics LLC ได้ที่ Cookie Statement
โปรดทราบว่า Qualtrics LLC ทำหน้าที่เป็นบุคคลที่สามซึ่งเป็นผู้ให้บริการในนามของเรา และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามคำแนะนำของเราและกฎหมายและข้อบังคับด้านการคุ้มครองข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา โปรดเยี่ยมชม Privacy Notice
คุณมีสิทธิ์และสามารถยกเลิกการสมัครรับอีเมลจากเราได้ตลอดเวลา คุณสามารถพบลิงก์สำหรับจัดการการยินยอมทางการตลาดของคุณได้ที่ส่วนท้ายของอีเมลแต่ละฉบับ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึงการตั้งค่านี้ได้ผ่านลิงก์ในส่วนท้ายของเว็บไซต์ Jungheinrich ซึ่งคุณสามารถให้หรือเพิกถอนความยินยอมของคุณและปรับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้
1. หลักการทั่วไป
1.1 ความทั่วไป
บริษัท ยุงค์ไฮน์ริช ลิฟท์ ทรัค จำกัด (“บริษัท”) ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ จึงได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลด้วยระบบปฏิบัติงาน และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย และมีความมั่นคงปลอดภัยต่อการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของ บริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนั้นยังจัดให้มีระบบการตรวจสอบการเข้าถึงและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ตลอดจนจัดให้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดเก็บและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำให้ระบบมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ ป้องกันไม่ให้มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล การแก้ไขส่วนบุคคลโดยผู้ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง หรือการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ บริษัท ได้แจ้งให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทราบไว้แต่แรก
เอกสารฉบับนี้ได้อธิบายถึงประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล และวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมเพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผย ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่ง บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทรวบรวมไว้ สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท
เอกสารฉบับนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานบริการต่าง ๆ ของ บริษัท ซี่งอาจแก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง นโยบายนี้โดยจะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
1.2 คำจำกัดความ
เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ และไม่ให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการตีความของคำบางคำในเอกสารฉบับนี้ บริษัทจึงได้จัดทำคำจำกัดความไว้ ดังนี้
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ยุงค์ไฮน์ริช ลิฟท์ ทรัค จำกัด
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของบุคคล” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตามมาตรา 26 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“ลูกค้า/คู่ค้า” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคล ซึ่งรวมถึงบุคคลคนเดียวหรือหลายคนซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหรือได้รับมอบหมายให้กระทำการแทนนิติบุคคล เพื่อเข้าเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับ บริษัท ในฐานะลูกค้าหรือคู่ค้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือขายสินค้า ผู้ให้หรือรับบริการ ผู้ฝากหรือรับฝากสินค้า
“ผู้สมัครงาน” หมายถึง บุคคลที่ยื่นคำขอสมัครเข้าทำงานกับบริษัท และรวมถึงบุคคลที่ผู้ให้บริการจัดหาคนหางานส่งข้อมูลส่วนบุคคลมาให้เพื่อวัตถุประสงค์ให้บริษัททำการคัดเลือกคุณสมบัติตามความเหมาะสม
“พนักงาน” หมายถึง บุคคลที่บริษัทตกลงทำสัญญาจ้างแรงงาน ไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรก็ตาม
“บุคคลในครอบครัว” หมายถึง บุคคลที่พนักงานได้แจ้ง ส่ง โอน เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย เพื่อประโยชน์ของพนักงานมากกว่าสิทธิตามกฎหมายที่พนักงานได้รับตามกฎหมายแรงงาน กฎหมายประกันสังคม
1.3 ความเกี่ยวข้อง
บริษัท จะพิจารณาอย่างรอบคอบในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เกี่ยวข้องภายใต้วัตถุประสงค์แห่งการดำเนินธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยเหตุดังต่อไปนี้
1.3.1 เป็นไปตามบทบัญญัติที่กฎหมายกำหนด
1.3.2 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาทางธุรกิจกับ บริษัท
1.3.3 เป็นความจำเป็นนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเป็นไปเพื่อสวัสดิการหรือประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยิ่งกว่าการเป็นคู่สัญญาทั่วไป
2. หลักการรวบรวมข้อมูลอย่างจำกัด
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
นโยบายฉบับนี้จะใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม รวมถึงกรณีที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับ บริษัท ดังนี้
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล ลายมือชื่อ วัน เดือน ปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวที่ราชการออกให้ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ตามภูมิลำเนา ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์มือถือ บัญชีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ และ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร บัญชีหรือรายการหรือประวัติการถือครองหุ้นหรือหลักทรัพย์ รูปถ่ายในบัตรประชาชน ภาพถ่ายการเข้าร่วมกิจกรรม รหัสพนักงาน เทปบันทึกเสียงการสนทนาทั้งส่วนของพนักงาน ลูกค้า สมาชิก เป็นต้น
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของบุคคล เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา หมู่เลือด สถานภาพทางครอบครัว ผลการตรวจสุขภาพ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการประสบอันตรายทั้งเนื่องจากการทำงาน หรือไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานแต่ได้นำมาแสดงกับ บริษัท ผลการวินิจฉัยโรค ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน พฤติกรรมทางเพศ ข้อมูลความพิการทางร่างกาย ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ผลการประเมินการทำงาน การแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ ภาพสแกนใบหน้า ดวงตา หรือลายนิ้วมือ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่อาจกระทบกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ประวัติการฝึกอบรมหรือเลขที่ใบอนุญาตให้เป็นผู้ครอบครอง จำหน่ายสินค้าตามที่หน่วยงานราชการกำหนด ทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ได้จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานราชการ เลขที่หรือรหัสผู้ประกอบวิชาชีพตามที่กฎหมายกำหนด หมายเลขอ้างอิงผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้ลงทะเบียนเพื่อรับประกันสินค้าหรือบริการนั้น ๆ สถานะทางการเงิน รายได้ ภาระหนี้ พฤติกรรมการบริโภค รีวิวแสดงความคิดเห็นหรือความพึงพอใจหรือประสบการณ์ในการใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ความคิดเห็นในการเข้าร่วมกิจกรรม เข้าชมงานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ บันทึกจากการถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว คำให้สัมภาษณ์ แบบลงทะเบียน คูปองชิงรางวัล รวมถึงข้อมูลอื่นใดที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง แต่เมื่อมีการนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบกันแล้วทำให้สามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของข้อมูลได้
2.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
2.2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
แม้ว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท จะสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะที่เป็นคู่สัญญาโดยตรง หรือเป็นผู้ที่ต้องกระทำการแทนนิติบุคคล หรือผู้รับมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจในการเข้าทำนิติกรรมเป็นคู่สัญญา ได้โดยไม่ขอความยินยอมตามหลักการขอความยินยอมของกฎหมายก็ตาม บริษัท ก็ยังคงรักษาไว้ซึ่งการมีส่วนร่วม โดยจะจัดให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบโดยชัดแจ้งว่า คู่สัญญาจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะที่จำเป็นในการเข้าเป็นสัญญาในฐานะคู่สัญญาที่ บริษัท และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องของนิติกรรมหรือสัญญานั้น ๆ นอกเหนือจากที่ได้กำหนดไว้แล้ว บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้
(ก) การเก็บรวบรวมที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
(ข) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(ค) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญากับ บริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญาใด ๆ กับ บริษัท
(ง) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ บริษัท
(จ) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัท หรือบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ บริษัท เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(ฉ) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่ง บริษัท มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
2.2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของบุคคล
บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
(ก) ในกรณีที่ บริษัท มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
(ข) เป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ยินยอมโดยชัดแจ้งให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด เพื่อการเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว
(ค) ในกรณีที่ บริษัท จำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(ง) ในกรณีที่ บริษัท จำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงาน การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ หรือประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข รวมถึงให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม การศึกษาวิจัยทางสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น และให้รวมถึงกรณีที่มีการดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ ซึ่ง บริษัท ได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2.3 การเก็บรวบรวม และการได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ยึดมั่นตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น เว้นแต่กรณีจำเป็นที่เจ้าของข้อมูลไม่อาจหรือไม่ได้เป็นผู้ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น ทั้งนี้จะเป็นไปเฉพาะแต่กรณีที่ บริษัท ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น โดยทั่วไปกรณีที่ บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง และจากแหล่งอื่น ได้แก่
2.3.1 ผู้สมัครงาน หรือพนักงาน
(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ หรือโรคประจำตัวของผู้สมัครงานที่บริษัทกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าทำงานกับ บริษัท ในฐานะลูกจ้าง ทำการตรวจสุขภาพของตนเองก่อนเข้าทำงาน โดยให้สถานพยาบาลที่ทำการตรวจสุขภาพส่งผลการตรวจให้แก่ บริษัท
(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประวัติการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หรือประวัติอาชญากรรม โดย บริษัท อาจกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าทำงานรายหนึ่งรายใดหรือตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หรือยินยอมให้ บริษัท ไปทำการตรวจประวัติอาชญากรรมแทนพนักงาน และยินยอมให้ บริษัท เก็บรวบรวมไว้ได้ตามระยะเวลาที่ บริษัท กำหนด แต่ทั้งนี้จะไม่เกินกว่าระยะเวลาที่บัญญัติไว้ตามกฎหมาย (ถ้ามี)
(ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประวัติการทำงานก่อนหน้าที่จะทำงานกับบริษัทโดยได้กำหนดให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งก่อนทุกครั้ง โดย บริษัท จะแจ้งการให้ความยินยอมให้แก่บุคคลภายนอกนั้น ๆ ทราบล่วงหน้าก่อนการส่งข้อมูลดังกล่าวมายังบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เพื่อให้ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
2.3.2 ลูกค้า สมาชิก ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์
กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ หรือสั่งซื้อสินค้า หรือสมัครเป็นสมาชิกในระบบขายตรง หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทเครือข่าย เฟรนไชส์จากบริษัท รวมถึงการติดต่อเพื่อบริการหลังการขาย การรีวิวแสดงความคิดเห็น ความพึงพอใจในการใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ การติดต่อระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับ บริษัท ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล แอปพลิเคชันของ บริษัท แอปพลิเคชันที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ศูนย์บริการลูกค้า เว็บไซต์บริษัท เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ของบริษัท ร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ แพลตฟอร์มที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารทาง Social Media (Facebook, Line Official Account) หรือการติดต่อโดยวิธีการอื่นใด บริษัท อาจดำเนินการบันทึกข้อมูลการติดต่อสื่อสารเหล่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงบริการ เพื่อติดตามความพึงพอใจของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่ออบรมบุคลากร เพื่อประเมินผลการทดสอบบุคลากร เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมทางการตลาด การนำส่งข้อเสนอผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ รวมถึงเพื่อพัฒนาระบบของ บริษัท
2.3.3 คู่ค้า
กรณีที่คู่ค้า ได้มอบหมายให้บุคคลคนเดียวหรือหลายคน ต้องติดต่อกับ บริษัท เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด เงื่อนไขของการเป็นคู่สัญญา ไม่ว่าจะในฐานะผู้ขาย ผู้ฝากขาย ผู้ให้บริการ ผู้แทน ผู้จัดจำหน่าย ทั้งสินค้ารวมถึงศูนย์บริการในนาม บริษัท ซึ่งกำหนดมาตรฐานความสามารถของบุคลากรที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ ให้สามารถให้บริการหรือตอบสนองต่อการใช้สินค้าหรือบริการ บริษัท จะมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเช่นว่านั้นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้เอกสารฉบับนี้ หรือตามเงื่อนไขของสัญญานั้น ๆ
3. หลักการคุณภาพของข้อมูล
ก่อนหรือขณะที่บริษัททำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง บริษัทจะมีกระบวนการในการบริหารจัดการ วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ด้วยหลักการ ความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความพร้อมต่อการใช้งาน ความเที่ยงตรง ความเป็นปัจจุบัน ความเป็นเอกลักษณ์ และความแม่นยำ
ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวข้างต้น บริษัท ได้จัดผู้เกี่ยวข้องทำการวิเคราะห์ วางแผนเพื่อให้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเฉพาะที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เที่ยงตรงที่เหมาะสมกับกระบวนการต่าง ๆ เพื่อการนำไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด การตรวจสอบถึงความถูกต้อง ความแม่นตรงของข้อมูลที่ได้รับก่อนที่จะมีการเก็บรวบรวม ไม่ว่าการบันทึกรายการข้อมูลเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง รวมทั้งจัดให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ รวมถึงการจัดการเพื่อการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของข้อมูล เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เป็นข้อเรียกร้องทั้งในเชิงกฎหมาย และเชิงพาณิชย์ในอนาคต
4. หลักการระบุวัตถุประสงค์
บริษัท กำหนดวัตถุประสงค์อันจำเป็นของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันกับการให้บริการ สิทธิประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล แยกตามประเภทของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ดังนี้
4.1 ผู้ถือหุ้น กรรมการบริหาร กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการในนาม บริษัท
บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้น กรรมการบริหาร กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการในนาม บริษัท เพื่อการลงนามผูกพันในสัญญาธุรกิจ สัญญาทั่วไป การอนุมัติการดำเนินการต่าง ๆ มอบอำนาจในการดำเนินการทางธุรกิจ กฎหมาย ธุรกรรมธนาคาร การติดต่อหน่วยงานราชการ การดำเนินการทั่วไปในการเชิญประชุม แจ้งผลของการประชุม การจัดการเงินปันผล รายงานผลการดำเนินการของบริษัทตามระเบียบหรือตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเพื่อการบริจาคหรือกิจกรรมอันเป็นสาธารณะกุศล การนำส่งข้อมูลให้กับธนาคารเพื่อจ่ายเงินปันผล
4.2 พนักงาน บุคคลในครอบครัว
บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในขอบเขตการสรรหา คัดเลือกเข้าทำงาน สัญญาว่าจ้าง การยืนยันตัวตนเพื่อเข้าทำงานหรือเข้าใช้งานในระบบสารสนเทศภายใน การคำนวณและจ่ายค่าจ้าง ผลตอบแทน การประเมินผลการทำงาน การปรับค่าจ้าง การเก็บประวัติความประพฤติทางวินัยรวมถึงบทลงโทษ การฝึกอบรม และการบริหารงานบุคคลในฐานะที่เป็นลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน การตรวจประวัติอาชญากรรม การเลื่อน โยกย้ายตำแหน่งงาน การเบิกจ่ายเงินตามระเบียบการทำงาน การประสานงานแก่ผู้บริหารเรื่องการนัดพบแพทย์ การสำรองตั๋วโดยสาร การขอวีซ่า จองห้องพัก สถานที่บริการต่าง ๆ การตรวจสุขภาพทั้งตามที่กฎหมายกำหนดและที่บริษัทจัดให้ และรวมถึงการจัดสวัสดิการ สิทธิประโยชน์แก่พนักงานและครอบครัว การส่งข้อมูลให้หน่วยงานภายนอกอันเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสรรพากร ประกันสังคม การพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมบังคับคดี สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา การกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา หน่วยงานปกครองท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลคโทรนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และการบริหารสำนักงาน การติดต่อประสานงานภายใน การเบิกค่าใช้จ่าย การถือครองทรัพย์สิน การจัดการด้านธุรการอาคารสถานที่ การจัดการจดหมายและไปรษณีย์ การบันทึกการเข้า-ออกพื้นที่ทำงาน การตรวจสอบ ตรวจประเมินทั้งจากหน่วยงานภายในและภายนอก รวมถึงการส่ง โอน หรือเปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการจัดส่งในการประสานงานเพื่อติดต่อลูกค้า การนำส่งข้อมูลให้กับธนาคารเพื่อจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทน เงินรางวัล โบนัส และสวัสดิการต่าง ๆ
สำหรับบุคคลในครอบครัวของพนักงาน บริษัท จะพิจารณาเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์กรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือเพื่อการดำเนินอื่นใดอันเป็นประโยชน์ของพนักงานหรือบุคคลในครอบครัวเป็นสำคัญ ทั้งนี้ บริษัท จะจัดให้บุคคลในครอบครัวที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้ความยินยอมไว้แก่ บริษัท โดยผ่านการดำเนินการของพนักงาน อย่างไรก็ตาม กรณีที่พนักงานไม่ได้ดำเนินการให้สอดคล้องอย่างเหมาะสมเพื่อให้ บริษัท ปฏิบัติสอดคล้องต่อกฎหมาย พนักงานอาจได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นกรณีที่พนักงานไม่อาจใช้สิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการที่สามารถได้รับจากการให้บริการโดย บริษัท ทั้งนี้ บริษัท สงวนสิทธิไม่จัด มอบ จ่ายสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการ หากพนักงานหรือบุคคลในครอบครัวของพนักงานยังไม่ได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย ข้อมูลของบุคคลในครอบครัวเพื่อการลดหย่อนภาษี
4.3 คู่ค้า
บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า ซึ่งครอบคลุมไปถึงซัพพลายเออร์ , ผู้ฝากขาย , ผู้แทนจำหน่าย , ผู้ว่าจ้าง , ผู้รับจ้างผลิต ผู้แสดงสินค้า รวมถึงบุคคลที่ต้องดำเนินการตามคำสั่ง การมอบหมายของคู่ค้า ในขอบเขตของการเปิดบัญชีลูกหนี้ เจ้าหนี้การค้ารายใหม่ การเสนอราคา การเจรจาต่อรอง การทำสัญญา การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุม อบรม สัมมนาทั้งในและต่างประเทศ การรับรองทางธุรกิจ งานแสดงหรือเปิดตัวหรือสาธิตสินค้าที่จัดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ การบริหารจัดการด้านการขาย การฝึกอบรม การทดสอบความสามารถด้านเทคนิค การโฆษณา การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ การจ่ายรางวัลตอบแทนการขาย และการขึ้นทะเบียนผู้ขาย การจัดซื้อจัดจ้าง การประเมินผู้ขาย การว่าจ้างสัญญาบริการต่าง ๆ การจัดส่งเอกสาร สินค้า กรณีที่เป็นวิทยากรหรือผู้รับเชิญให้บรรยาย ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการฝึกอบรม การสัมมนา การประชุม เป็นประวัติส่วนตัว ทั้งการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ความสามารถพิเศษ ภาพถ่ายขณะดำเนินกิจกรรม กรณีเป็นผู้ตรวจสอบ ตรวจประเมินจากหน่วยงานภายนอก บริษัท จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตรวจสอบ ตรวจประเมินไว้เฉพาะเท่าที่ใช้ในการยืนยันตัวตน การขึ้นทะเบียนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
4.4 ลูกค้า ตัวแทนลูกค้า ผู้ร่วมกิจกรรม
บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ตัวแทนลูกค้า สมาชิก ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทได้จัดขึ้น เพื่อประโยชน์ของลูกค้าตั้งแต่การเสนอขายสินค้า การประสานงานขาย การขึ้นทะเบียนลูกค้าใหม่ การทดสอบผลิตภัณฑ์ การอบรมการใช้ผลิตภัณฑ์ การทดสอบเพื่อออกใบอนุญาต ใบรับรองการใช้ผลิตภัณฑ์ การกำหนดวงเงินเครดิตลูกค้า รวมถึงการบริการก่อนการขาย ขณะที่ทำการซื้อขาย และบริการหลังการขาย การตรวจสอบชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ในการจัดส่งสินค้าและเอกสารหลักฐานการชำระเงินการรีวิว (การแสดงความคิดเห็น การประชาสัมพันธ์ การแสดงความรู้สึก การแจ้งผลลัพธ์ของการใช้สินค้าและ/หรือผลิตภัณฑ์) การสำรวจความพึงพอใจ การยืนยันหรือแสดงตัวตนเพื่อเข้าชมงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ การเข้าร่วมกิจกรรม สื่อออนไลน์ การทำ content การแลกเปลี่ยนสินค้า จัดการข้อร้องเรียนลูกค้า การนำเสนอโปรโมชั่น การแจ้งสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า เข้าร่วมกิจกรรม รับของรางวัล ของขวัญ ของที่ระลึก การรับรองทางธุรกิจ ซึ่งจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลของบุคคลผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมตามเงื่อนไขที่บริษัทหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์กำหนด รวมถึงการโอน ส่งต่อ หรือเปิดเผยข้อมูลให้แก่ผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าเพื่อดำเนินการในเรื่องการจัดส่งสินค้า การติดต่อรับคืนสินค้าจากลูกค้า หรือแก่สถาบันการเงินเพื่อการคืนเงินค่าสินค้าให้แก่ลูกค้า รวมถึงการวิเคราะห์ cookie เพื่อประสิทธิภาพของการทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ การนำส่งข้อมูลรายได้ผ่านธนาคาร การยื่นภาษีต่อกรมสรรพากร
การยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้ระบบสารสนเทศต่างๆ ที่บริษัทจัดเตรียมไว้ให้ เช่น เวปสำหรับตรวจสอบคะแนน สายงาน ซึ่งมีข้อมูลส่วนตัวของลูกทีมหรือระบบแอปพลิเคชันที่สามารถใช้ตรวจสอบคะแนนและทำการสั่งซื้อสินค้าได้ เข้าระบบสร้าง Sale page ระบบอบรมออนไลน์ การบันทึกกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาคววามปลอดภัยให้ลูกค้าและบริษัท การบันทึกเสียงสนทนา เพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการ
5. หลักการใช้ข้อมูลอย่างจำกัด
บริษัท จะพิจารณาอย่างรอบคอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างจำกัดภายใต้ขอบเขตของวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ
นอกเหนือจากการคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบกับบทบัญญัติ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนดของทางราชการที่เกี่ยวข้อง บริษัท จะพิจารณาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์หรือตอบสนองผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะลูกค้า สมาชิก ผู้รับบริการ ตามขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์อย่างจำกัด เพื่อการดังต่อไปนี้
(1) ติดต่อเพื่อตอบคำถามจากลูกค้า คู่ค้า
(2) การส่งสินค้า บริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่สั่งซื้อ ทั้งกรณีการสั่งซื้อ การแลกเปลี่ยน การรับคืน
(3) การจัดการและการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในฐานะคู่สัญญากับบริษัท
(4) การวิจัยตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการใหม่ การจัดทำแปลงสาธิต
(5) การแนะนำข้อเสนอทางการตลาด การสื่อสารทางการตลาด การส่งเสริมการขาย การบริหารองค์กรสมาชิกในระบบขายตรง
(6) วัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องกับข้องต่าง ๆ ข้างต้น หากต้องได้มาหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัท จะขอความยินยอมก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม บรรดาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่บริษัทได้ทำการเก็บรวบรวม ใช้ รวมถึงการเปิดเผยมาไว้ก่อนที่กฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลใช้บังคับ บริษัท จะทำการเก็บรวบรวม และใช้ตามวัตถุประสงค์เดิมที่ บริษัท เคยแจ้งและขอความยินยอมตามวิถีทางธุรกิจที่บริษัทได้ปฏิบัติต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก่อนที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับต่อไปตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ในเอกสารฉบับนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในเรื่องระยะเวลา แต่หากบริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่เคยแจ้งวัตถุประสงค์ไปก่อนหน้านี้แล้ว บริษัท จะยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ
6. หลักการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
6.1 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเก็บในระบบเอกสารปกติ
บริษัท ได้กำหนดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บเป็นเอกสาร (Hard Copy) ไว้เป็นการเฉพาะด้วยการเก็บรวบรวมไว้ตาม นโยบายและแนวทางปฏิบัติในการควบคุมการปฏิบัติงานและรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Security Policy) ที่ บริษัท กำหนดไว้ตามนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
6.2 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์
บริษัท ได้กำหนดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลโดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยการออกแบบระบบสารสนเทศและระบบเครือข่ายและคอมพิวเตอร์ให้มีความมั่นคงปลอดภัยอย่างเหมาะสมที่สุด เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการป้องกันภัยคุกคามที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บริษัท
1. จัดให้มีหน้าที่ดูแลให้มีการกำหนดนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทต้องทำการสื่อสารนโยบายดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้าใจและสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างหน่วยงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและหน่วยงานด้านอื่นภายในบริษัท เพื่อให้มีการประสานงานและสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
2. จัดให้มีการทบทวนนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท
3. กำหนดผู้ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการบริหารและจัดการความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทสามารถจัดหาวิธีการหรือแนวทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดความเสี่ยงหรือจัดการความเสี่ยงที่มีอยู่ แล้วนำเสนอให้กับผู้บริหารเพื่อพิจารณาในการจัดการความเสี่ยงด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
4. ได้ระบุความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อครอบคลุมความเสี่ยงสำคัญ เช่น ความเสี่ยงจากบุคลากร จาก Software และข้อมูลจากระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต จาก Hardware และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จากการเงิน จากอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย แผ่นดินไหว อาคารพังถล่ม การโจรกรรม และ จากกระแสไฟฟ้าขัดข้อง
5. กำหนดวิธีการในการบริหาร และจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่บริษัทยอมรับได้ จัดทำตารางลักษณะ รายละเอียดความเสี่ยง โดยมีหัวเรื่อง ชื่อความเสี่ยง ประเภทความเสี่ยง ลักษณะความเสี่ยง ปัจจัยความเสี่ยง และผลกระทบ เป็นต้น กำหนดระดับโอกาสการเกิดเหตุการณ์และระดับความรุนแรงของผลกระทบความเสี่ยง
6. กำหนดตัวชี้วัดระดับความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงจัดให้มีการติดตามและรายงานผลตัวชี้วัดต่อผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อให้สามารถบริหารและจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมและทันต่อเหตุการณ์
7. ห้ามบุคลากรของบริษัทใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อกระทำการอันผิดกฎหมายและขัดต่อศีลธรรมอันดีของสังคม เช่น การจัดทำเว็บไซต์เพื่อดำเนินการค้าขาย หรือเผยแพร่สิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือขัดต่อศีลธรรมอันดี เป็นต้น
8. ไม่อนุญาตให้ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยชื่อบัญชีผู้ใช้ของผู้อื่น ทั้งที่ได้รับอนุญาต และไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของชื่อบัญชีผู้ใช้
9. ห้ามเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่มีการป้องกันการเข้าถึงของผู้อื่น เพื่อแก้ไข ลบ เพิ่มเติม หรือคัดลอก
10. ห้ามเผยแพร่ข้อมูลของผู้อื่น หรือของหน่วยงาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของข้อมูลนั้น ๆ
11. ห้ามผู้ใดก่อกวน ขัดขวาง หรือทำลายให้ทรัพยากรและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัทเกิดความเสียหาย เช่น การส่งไวรัสคอมพิวเตอร์ การป้อนโปรแกรมที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายปฏิเสธการทำงาน เป็นต้น
12. ห้ามผู้ใดลักลอบดักรับข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท และของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการรับและส่งในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
13. ก่อนการใช้งานสื่อบันทึกพกพาต่าง ๆ หรือเปิดไฟล์ที่แนบมากับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้งานต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาไวรัสโดยโปรแกรมป้องกันไวรัสก่อนทุกครั้ง
14. มอบหมายหน้าที่ให้กับผู้ใช้งานในฝ่ายเทคโนโลยี รับผิดชอบการดูแลระบบสารสนเทศที่บริษัทใช้งานให้มีความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ และควบคุมการปฏิบัติงาน เพื่อให้คงไว้ซึ่งนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศของบริษัท
15. พนักงานของบริษัททุกคนต้องรับผิดชอบในการปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติของบริษัท ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศของบริษัท รวมทั้งจะต้องไม่กระทำการละเมิดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
16. ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานติดตั้ง แก้ไข เปลี่ยนแปลงโปรแกรมในเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัท เว้นแต่ได้รับคำปรึกษาหรือคำแนะนำจากผู้ดูแลระบบ หรือได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจสูงสุดของหน่วยงาน
17. กำหนดเส้นทางการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายเพื่อการเข้าใช้งานระบบอินเทอร์เน็ต โดยต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย ได้แก่ Firewall โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทก่อนทำการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย ต้องมีการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและทำการอุดช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการก่อน และภายหลังจากใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตเสร็จแล้ว ให้ผู้ใช้งานทำการปิดเว็บบราวเซอร์เพื่อป้องกันการเข้าใช้งานโดยบุคคลอื่น
18. ผู้ใช้งานต้องเข้าถึงแหล่งข้อมูลตามสิทธิ์ที่ได้รับตามหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายและความปลอดภัยของบริษัท โดยห้ามผู้ใช้งานเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่เป็นความลับของบริษัท ยกเว้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์การเปิดเผยอย่างเป็นทางการของบริษัท
19. ผู้ใช้งานจะต้องใช้ระบบอินเทอร์เน็ต ในลักษณะที่ไม่เป็นการละเมิดของบุคคลอื่น ๆ และจะต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นต่อบริษัท รวมทั้งจะต้องไม่กระทำการใดอันเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ การใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการปฏิบัติงานของบริษัทในทุกกรณี ผู้ใช้งานจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติที่บริษัทกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
20. จัดลำดับชั้นความลับ ต้องมีการแบ่งประเภทของข้อมูลตามภารกิจและการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล กำหนดวิธีบริหารจัดการกับข้อมูลแต่ละประเภท รวมถึงกำหนดวิธีปฏิบัติกับข้อมูลลับหรือข้อมูลสำคัญก่อนการยกเลิกหรือการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยการรับส่งข้อมูลสำคัญผ่านระบบเครือข่ายสาธารณะ ต้องได้รับการเข้ารหัส ที่เป็นมาตรฐานสากล เช่น การใช้ Secure Socket Layer การใช้ Virtual Private Network (VPN) เป็นต้น
21. มีมาตรการควบคุมความถูกต้องของข้อมูลที่จัดเก็บ นำเข้า ประมวลผล และแสดงผล ในกรณีที่มีการจัดเก็บข้อมูลเดียวกันไว้หลายที่ หรือมีการจัดเก็บชุดข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน ต้องมีการควบคุมให้ข้อมูลมีความถูกต้องครบถ้วนตรงกัน รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลในกรณีที่นำเครื่องคอมพิวเตอร์ออกนอกพื้นที่ของบริษัท เช่น ส่งซ่อม เป็นต้น หรือทำลายข้อมูลที่เก็บอยู่ในสื่อบันทึกก่อน
22. มีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและอุปกรณ์ในการประมวลผลข้อมูล โดยคำนึงถึงการใช้งานและความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งานระบบสารสนเทศ กำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการอนุญาตให้เข้าถึง กำหนดสิทธิ์เพื่อให้ผู้ใช้งานในทุกระดับได้รับรู้ เข้าใจ และสามารถปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดโดยเคร่งครัด และตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ โดยกำหนดสิทธิ์การใช้ข้อมูลและระบบสารสนเทศ เช่น สิทธิ์การใช้โปรแกรมระบบสารสนเทศ สิทธิ์การใช้งานอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ให้แก่ผู้ใช้งานให้เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยต้องให้สิทธิ์เฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่การปฏิบัติหน้าที่ และได้รับความเห็นชอบจากผู้มีอำนาจหน้าที่เป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งทบทวนสิทธิ์ดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ
23. กรณีที่มีความจำเป็นที่ผู้ใช้งานซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลสำคัญมีการให้สิทธิ์ผู้ใช้งานรายอื่นให้สามารถเข้าถึงหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลของตนเองได้ เช่น การ Share Files เป็นต้น จะต้องเป็นการให้สิทธิ์เฉพาะรายหรือเฉพาะกลุ่มเท่านั้น และต้องยกเลิกการให้สิทธิ์ดังกล่าวในกรณีที่ไม่มีความจำเป็นแล้ว และเจ้าของข้อมูลต้องมีหลักฐานการให้สิทธิ์ดังกล่าว และต้องกำหนดระยะเวลาการใช้งาน และระงับการใช้งานทันทีเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว
24. กรณีที่มีความจำเป็นต้องให้สิทธิ์บุคคลอื่น ให้มีสิทธิ์ใช้งานระบบสารสนเทศและระบบเครือข่ายในลักษณะฉุกเฉินหรือชั่วคราว ต้องมีขั้นตอนหรือวิธีปฏิบัติ และต้องมีการขออนุมัติจากผู้มีอำนาจหน้าที่ทุกครั้ง บันทึกเหตุผลและความจำเป็น รวมถึงต้องกำหนดระยะเวลาการใช้งาน และระงับการใช้งานทันทีเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าว
25. มีระบบตรวจสอบตัวตนจริงและสิทธิ์การเข้าใช้งานของผู้ใช้งาน ก่อนเข้าสู่ระบบสารสนเทศที่รัดกุมเพียงพอ เช่น กำหนดรหัสผ่านให้ยากแก่การคาดเดา เป็นต้น และต้องกำหนดให้ผู้ใช้งานแต่ละรายมีบัญชีผู้ใช้งานเป็นของตนเอง ทั้งนี้ การพิจารณาว่าการกำหนดรหัสผ่านมีความยากแก่การคาดเดาหรือ การควบคุมการใช้รหัสผ่านตามข้อกำหนดหรือระเบียบปฏิบัติของบริษัท
26. จะต้องยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้งานระบบด้วยรหัสผ่านที่ผู้ดูแลกำหนด ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ ในการเปลี่ยนรหัสผ่านแต่ละครั้ง ไม่ควรกำหนดให้ซ้ำของเดิม 3 ครั้งหลังสุด และเก็บรหัสไว้เป็นความลับ ไม่จดใส่กระดาษแล้วติดไว้หน้าเครื่อง กรณีผู้ใช้งานมีการใช้งานร่วมกันลักษณะ Shared Users ผู้ดูแลจะแจ้งผู้ใช้งานให้เปลี่ยนรหัสผ่านในการเข้าระบบงานนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้งานในสังกัด
27. จัดให้มีระบบการตรวจสอบรายชื่อผู้ใช้งานของระบบงานสำคัญอย่างสม่ำเสมอ และดำเนินการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ใช้งานที่มิได้มีสิทธิ์ใช้งานระบบแล้ว เช่น บัญชีรายชื่อของผู้ใช้งานที่ลาออกแล้ว บัญชีรายชื่อที่ติดมากับระบบ เป็นต้น พร้อมทั้งระงับการใช้งานโดยทันทีเมื่อตรวจพบ เช่น Disable เพื่อปิดการใช้งาน หรือ ลบออกจากระบบ หรือเปลี่ยนรหัสผ่าน เป็นต้น
28. จัดให้มี Data Center Room ให้เป็นสัดส่วน แบ่งส่วนระบบเครือข่าย ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย ส่วนเครื่องสำรองไฟฟ้า ส่วนแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานและทำให้การควบคุมการเข้าถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำคัญต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
29. จัดทำข้อตกลงสำหรับการถ่ายโอนข้อมูล โดยคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และผู้ดูแลระบบต้องควบคุมการปฏิบัติงานนั้น ๆ ให้มีความปลอดภัยทั้ง 3 ด้าน คือ การรักษาความลับ การรักษาความถูกต้องของข้อมูล และการรักษาความพร้อมที่จะให้บริการ โดยกำหนดให้มีการรลงนามในสัญญาระหว่างบริษัทและหน่วยงานภายนอกว่าจะไม่เปิดเผยความลับของบริษัท ตลอดจนมีมาตรการในการติดตามและตรวจสอบการปฏิบัติงานและคุณภาพการให้บริการของผู้ให้บริการภายนอก ว่าเป็นไปตามสัญญาและข้อตกลง
7.หลักการเปิดเผย
บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ข้างต้นตามที่ระบุด้านล่างนี้
7.1 บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ (Brand) เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมประวัติการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งบริษัทจะเปิดเผยเฉพาะเจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือเฉพาะแต่ข้อมูลส่วนบุคคลอันจำเป็นต่อการดำเนินการเท่านั้น
7.2 หน่วยงานราชการตามที่บริษัทต้องปฏิบัติตามประกาศ หลักเกณฑ์ บทบัญญัติของกฎหมาย ได้แก่ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร กรมวิชาการเกษตร กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการจัดหางาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา การกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ หน่วยงานปกครองท้องถิ่น การจราจรทางเครือข่ายที่สามารถระบุถึงตัวตนผู้ใช้งานให้กับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
7.3 พันธมิตรของบริษัท บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นที่มีข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับบริษัท เช่น สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัย สถานพยาบาล บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน เพื่อประโยชน์และสวัสดิการให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
7.4 ผู้ที่ให้บริการด้านที่วิชาชีพ ได้แก่ ที่ปรึกษาด้านการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาระบบคุณภาพ ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายใน
7.5 ผู้ที่ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดเก็บข้อมูล ผู้ให้บริการคลาวด์
7.6 ผู้ที่ให้บริการด้านการตลาด การจัดทำข้อมูลในเชิงสถิติ การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสาร
7.7 บุคคลอื่นใดที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คำสั่งของหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแล หรือคำสั่งของหน่วยงานตุลาการให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
7.8 ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่จากบริษัท ในกรณีที่บริษัทประสงค์จะโอนสิทธิ และหน้าที่ของบริษัท รวมถึงการโอนกิจการบางส่วนหรือทั้งหมด การควบรวมกิจการ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท บริษัทจำเป็นจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้รับโอน (รวมถึงผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้รับโอน) โดยสิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายฉบับนี้ด้วย
8. การส่ง โอน เปิดเผยข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างประเทศ
บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้ หากในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ บริษัทจะดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็นและเหมาะสม บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังที่ที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยแจ้งขอความยินยอมจากท่านก่อนการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทสามารถส่ง โอน เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปต่างประเทศได้ตามข้อยกเว้นที่กฎหมายได้บัญญัติไว้
9. การใช้งานเว็ปไซต์ การใช้งานคุกกี้ และ / หรือ เทคโนโลยีที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ต่อไปนี้: www.jungheinrich.co.th และ https://shop.jungheinrich.co.th/ บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้งานคุกกี้ และ / หรือ เทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เมื่อท่านมีการใช้งานเว็บไซต์ และ / หรือ แอปพลิเคชันของบริษัท รวมถึงการทำธุรกรรม การซื้อผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการของบริษัท ผ่านช่องทางดิจิทัลและเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การเก็บรวบรวมคุกกี้ และ / หรือ การใช้งานเทคโนโลยีอื่นใดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน จะช่วยให้บริษัท สามารถจดจำการใช้งานและความชื่นชอบของท่าน รวมถึงการวิเคราะห์ความสนใจของท่านเพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ และ / หรือ แอปพลิเคชันของบริษัท ให้ตอบสนองต่อความต้องการและการใช้งานของท่าน เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และ / หรือ แอปพลิเคชันของบริษัท ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก “นโยบายการใช้คุกกี้” ของบริษัท https://www.jungheinrich.co.th/cookies
นอกจากนี้ บริษัทอาจมีการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนของท่านแก่ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Google, Facebook และ LinkedIn ทั้งในและต่างประเทศ โดย จะมีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น คุกกี้ และ/หรือ เทคโนโลยีที่มีลักษณะใกล้เคียงกันในการติดตามและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการใช้งานของท่านบนเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชันของบริษัท ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก “การใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท” https://www.jungheinrich.co.th/data-privacy-th-609500
10.หลักการมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล
นอกจากสิทธิพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ สิทธิในการได้รับแจ้งข้อมูล การเข้าถึง ขอแก้ไข ขอลบข้อมูล การจำกัดการให้ข้อมูล การได้รับแจ้งเตือน ขอโอนย้ายข้อมูล สิทธิที่จะปฏิเสธการให้ใช้ข้อมูล สิทธิที่ไม่อนุญาตให้ใช้ระบบการตัดสินใจดำเนินการอัตโนมัติแล้ว เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังมีสิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ ได้แก่
10.1 การให้ความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ บริษัท ร้องขอ และยินยอมให้ บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหรือไม่ก็ได้ เพียงแต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องรับทราบว่าการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ หรือการไม่ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกจำกัดสิทธิการใช้บริการบางอย่างของบริษัท หรือส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เลยหากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการให้บริการแก่ท่าน
10.2 การเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น หรือขอให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าของข้อมูลเองหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (หากข้อมูลดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้) รวมทั้ง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังสามารถขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมในการจัดเก็บ
10.3 การคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บ ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากข้อมูลนั้นบริษัทจัดเก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน หรือข้อมูลนั้นเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการตลาดแบบตรง หรือการเพื่อการศึกษาวิจัย
10.4 การลบ ทำลาย หรือระงับการใช้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรักษาไว้ หรือให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพิกถอน หรือคัดค้านการเก็บใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บ ใช้หรือ เปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือเมื่อบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10.5 การแก้ไข เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
10.6 การถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ แต่การถอนความยินยอมของท่านจะไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านต่อไปได้
10.7 การใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมายกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้สิทธิของท่าน ท่านรับทราบว่าสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในข้อ 8.1 ถึง 8.6 ข้างต้น เป็นสิทธิที่มีข้อจำกัดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และบริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านหากบริษัทมีเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ ย่อมจำกัดไว้แต่เพียงแต่การให้บริการพื้นฐานที่ไม่ทำให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเกิดค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น หากการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เกี่ยวข้องเป็นการใช้สิทธิที่ฟุ่มเฟือย หรือใช้สิทธิเกินส่วน หรือไม่สมเหตุสมผล และได้ก่อให้เกิดค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องรับผิดชดใช้คืนเงินค่าดำเนินการต่าง ๆ ที่มีการขอใช้สิทธิเช่นว่านั้น
11. หลักการความรับผิดชอบ
11.1 ระยะเวลาที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากจะมีการระบุไว้เป็นการเฉพาะตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามเอกสารระเบียบปฏิบัติงาน ประกาศ การแจ้งโดยชัดแจ้งของ บริษัท เกี่ยวกับระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่างจากนโยบายฉบับนี้ บริษัท จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจเป็นระยะเวลา 5 ปีปฏิทินนับจากที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าวสิ้นสุดนิติสัมพันธ์กับ บริษัท เว้นแต่กรณีเป็นความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้หรือการโต้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การบังคับคดี การวางทรัพย์ หรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ
11.2 ระบบการตรวจสอบถึงการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่พ้นระยะเวลาจัดเก็บ
บริษัทจัดให้มีระบบตรวจสอบเพื่อลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาจัดเก็บหรือไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ หรือขอถอนความยินยอม เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องทำการเก็บรักษาเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือเป็นไปตามข้อยกเว้นของกฎหมายที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ รวมถึงการใช้เพื่อการก่อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเป็นการปฏิบัติตามการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
11.3 ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
หากท่านประสงค์จะติดต่อ บริษัท เพื่อใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือหากท่านมีข้อสงสัยอื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อ บริษัท ได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ยุงค์ไฮน์ริช ลิฟท์ ทรัค จำกัด สำนักงานใหญ่ เลขที่ 335/3 หมู่ 9 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 โทรศัพท์ : 02-0090200 e-mail: data_privacy@jungheinrich.co.th
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นางสาวเพียงฤทัย ทัฬหพัชรกุล วันทำการปกติ โทรศัพท์ 02-0090247 เวลาติดต่อ 08.00 -17.00 น.
ให้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
ประกาศมา ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัทฯ ยุงค์ไฮน์ริช ลิฟท์ ทรัค จำกัด
สถานที่ติดต่อ: 335/3 หมู่ 9 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรศัพท์: 02-0090200
อีเมล: marketing@jungheinrich.co.th
(เกี่ยวกับกิจกรรมด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ รวมถึงการใช้งานบนเว็บไซต์ และสื่อต่างๆของบริษัทฯ)
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: 335/3 หมู่ 9 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรศัพท์: 02-0090247
อีเมล: data_privacy@jungheinrich.co.th
จดหมายข่าว
ลงทะเบียนตอนนี้